ผู้ว่าการ วว. กล่าวถึงการดำเนินงานและขอบเขตความรับผิดชอบของ วว. ในการสนับสนุนโครงการหลวงตีนตกว่า วว. ดูแลงานด้านเห็ดและวานิลลาทั้งระบบของโครงการหลวงอย่างครบวงจร และช่วยบริหารจัดการการดำเนินงานของศูนย์ นอกจากนี้ยังดำเนินงานวิจัยพัฒนาและทดสอบการเพาะเห็ดชนิดใหม่ พัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากเห็ด เพื่อเพิ่มมูลค่า ก่อนขยายผลสู่เกษตรกรต่อไป นอกจากนี้ วว. ได้สนับสนุนหัวเชื้อเห็ด อบรมการเพาะเลี้ยงเห็ด อบรมกลุ่มเกษตรกรและปัจจัยการผลิตเห็ด และบริหารจัดการโครงการหลวงตีนตกให้เป็นสถานที่ฝึกงานของนักศึกษา สถานที่ดูงาน ตลอดจนนำผลงานของโครงการเข้าร่วมแสดงในนิทรรศการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง
"วว. ได้สนองโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวงรวมทั้งสิ้น 3 แห่งด้วยกันคือ โครงการหลวงตีนตก โครงการหลวงดอยปุย และโครงการหลวงป่าเมี่ยง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ในการส่งเสริมพัฒนาการเพาะเห็ด เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่นและเป็นพืชทางเลือกในการประกอบอาชีพของชุมชนบนพื้นที่สูงจวบจนปัจจุบัน มูลนิธิโครงการหลวงและ วว. ยังดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ วว. ได้เสนอแผนและผลการดำเนินงานทุกปี โดยให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ทุก 5 ปี ของโครงการหลวง" ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ กล่าว
ดร.ชนะ พรหมทอง นักวิจัยอาวุโส ฝ่ายวิทยาศาสตร์ชีวภาพ วว. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. ได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการโครงการหลวงตีนตกทั้งระบบ ซึ่ง วว. ได้นำองค์ความรู้ทางวิชาการในการส่งเสริมการเพาะเห็ด วานิลลา และยังมุ่งส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะ การปลูกกาแฟ และการปลูกไม้ผลเมืองหนาว ไม้ดอกไม้ประดับ รวมทั้งดูแลการปลูกป่าชาวบ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ตลอดจนป้องกันยาเสพติด สนับสนุนให้เกิดระบบสหกรณ์และชุมชนเข้มแข็ง ส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
"ปัจจุบันบทบาทของ วว. ในการสนับสนุนโครงการหลวงมุ่งเน้นการผลิต การส่งเสริมให้เกิดการเพาะเห็ด และปลูกวานิลลาเพิ่มขึ้นในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการอาหารปลอดภัยภายใต้เครื่องหมายการค้าโครงการหลวง และขยายไปยังตลาดต่างประเทศ รวมถึงการรับผิดชอบงานบริหารจัดการโครงการ" ดร.ชนะ พรหมทอง กล่าวสรุปในตอนท้าย