รัฐมนตรีเกษตรฯ เยือนเกาหลีใต้ ร่วมเป็น 1 ใน 7 ประเทศถกเวทีระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชียแก้ไอยูยู และการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ย้ำจุดยืนเป็นผู้นำในการจัดทำ “นโยบายประมงร่วมอาเซียน”

พุธ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๐๑๖ ๑๔:๐๐
เร่งยกระดับประมง : พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและการแก้ไขปัญหาไอยูยูระดับภูมิภาค โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากภูมิภาคเอเชีย รวม 7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา ศรีลังกา และสาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชนร่วมประชุม เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาครัฐในภูมิภาคเอเชียและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับแนวทางการขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการทรัพยากรด้านประมงอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมเวสอิน โชซัน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี

รัฐมนตรีเกษตรฯ เยือนเกาหลีใต้ ร่วมเป็น 1 ใน 7 ประเทศถกเวทีระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชียแก้ไอยูยู และการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ย้ำจุดยืนเป็นผู้นำในการจัดทำ "นโยบายประมงร่วมอาเซียน" มุ่งเป้ามีการทำประมงยั่งยืนในภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2562

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและการแก้ไขปัญหาไอยูยูระดับภูมิภาค ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงมหาสมุทรและการประมง สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับหน่วยงานเอ็นจีโอ ได้แก่ มูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (EJF) กลุ่มสิทธิมนุษยชนของอังกฤษ

และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงแรมเวสอิน โชซัน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีว่าการประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่ผู้จัดงานได้เชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูง จากภูมิภาคเอเชีย รวม 7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา ศรีลังกา และสาธารณรัฐเกาหลี (เจ้าภาพ) รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชนร่วมประชุม เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาครัฐในภูมิภาคเอเชียและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับแนวทางการขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการทรัพยากรด้านประมงอย่างยั่งยืน

สำหรับประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากเวทีนี้ในการแสดงถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นในการร่วมเป็นหนึ่งในประเทศที่กำหนดนโยบายการจัดการความยั่งยืนของทะเลและทรัพยากรประมง ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการประมงของไทยเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต โดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายและปัญหาแรงงานในภาคการประมงเป็นวาระแห่งชาติที่ได้เร่งรัดดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่นับว่าเป็นการปฏิรูปการประมงจากที่เคยปฏิบัติมาในอดีต ขณะเดียวกัน ยังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานทั้งระบบและในภาคการประมง ซึ่งสถานการณ์การค้ามนุษย์ "ทิพ รีพอร์ท" ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศปรับสถานะประเทศไทยขณะนี้อยู่ใน "เทียร์ ทู วอชลิสต์" (Tier 2 Watch List)

อย่างไรก็ตาม การจัดการทรัพยากรทางทะเลไม่สามารถกระทำให้สำเร็จได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ประเทศไทยจึงเห็นความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งกับมิตรประเทศในภูมิภาค ประเทศคู่ค้า และองค์การระหว่างประเทศ อาทิ อีเจเอฟ, กรีนพีซ, ไอแอลโอ, และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประชาคมอาเซียน ในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตอาหารและสินค้าประมงที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จึงควรมีการบริหารจัดการทรัพยากรในมิติต่างๆ ในทิศทางเดียวกัน ตามที่ได้ประกาศไว้ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ด้านการเกษตรและป่าไม้ หรือ "อา-มาฟ" (AMAF) ครั้งที่ 38 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนกันยายน 2016 ว่าประชาคมอาเซียน ควรกำหนดนโยบายประมงร่วมกัน เพื่อกำหนดเป้าหมายและแผนเป็นขั้นตอน โดยในปี 2560 ไทยจะจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนชาวประมงจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ประมาณเดือนมีนาคม 2560 พร้อมทั้งการประชุมวิชาการด้านการบริหารทรัพยากรประมง ระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก ประมาณเดือนกรกฎาคม 2017 เพื่อประชาคมอาเซียนจะสามารถนำผลที่ได้จากการประชุมทั้ง 2 ครั้ง จากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน อันรวมถึงผู้ประกอบการประมงทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในทุกระดับการผลิต มาประกอบการร่างนโยบายประมงร่วมกัน ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกประเทศและทุกภาคส่วนในประชาคมอาเซียนก้าวเดินไปด้วยกัน

"การประชุมในระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชียเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนในครั้งนี้จึงสอดคล้องกับสิ่งที่ประเทศไทยได้มุ่งมั่นดำเนินการ และหวังว่าประชาคมอาเซียนจะร่วมกันผลักดันจุดยืนการทำประมงอย่างยั่งยืนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2562 และพร้อมที่จะทำงานร่วมกันในการจัดทำ "นโยบายประมงร่วมอาเซียน" โดยแสวงหาร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักเลขาธิการอาเซียนและประเทศสมาชิก องค์กรระดับภูมิภาค และองค์กรระหว่างประเทศ และพันธมิตรจากทั่วโลกและจะนำผลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ เพื่อกำหนดนโยบายประมงสู่ความยั่งยืนต่อไป"พลเอก ฉัตรชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๔๔ กรรมการ กคช. ลงพื้นที่ชุมชนดินแดง ย้ำ ! ตรวจสอบอาคาร D1 ให้ละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องดินแดง
๑๑:๑๑ สาขาการผลิตอีเว้นท์ฯ ม.กรุงเทพ พร้อมผลักดันวงการ T-POP ใน CHECKMATE T-POP DANCE BATTLE
๑๐:๑๓ ฟอร์ติเน็ตผนึกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมเป็นศูนย์กลางภาคเหนือ สร้างกำลังพลมืออาชีพด้านไซเบอร์เต็มรูปแบบ
๑๐:๕๘ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ชวนสัมผัสฟาร์มกลางท้องทุ่ง และเรียนรู้อนุรักษ์ควายไทย ในงาน INTO THE FARM มนต์รัก
๑๐:๓๐ วว. แนะวัสดุปลูกต้นอ่อนทานตะวันจากก้อนเห็ดเก่าใช้แล้ว
๑๐:๒๑ MICRO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (E-AGM) ประจำปี 2567 ชูกระแสเงินสดแกร่ง - เตรียมชำระคืนหุ้นกู้ 321 ลบ. เม.ย.
๐๙:๔๓ ยางคอนติเนนทอล ฉลองครบรอบความสำเร็จ 15 ปี ในประเทศไทย และการก่อตั้งโรงงานยางคอนติเนนทอลแห่งแรกในประเทศไทยกว่า 5
๐๙:๕๖ เนสท์เล่ ประเทศไทย เร่งเครื่องกลยุทธ์ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค นำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่อร่อยและมีคุณค่าโภชนาการ
๐๙:๑๑ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถั และสีมาตรฐานครบวงจรแห่งใหม่ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการวอลโว่ พระนคร
๐๙:๔๔ HONNE (ฮอนน์) วงดูโอ้สุดแนวจากอังกฤษ ปล่อยเพลงใหม่ Imaginary ต้อนรับศักราชใหม่ เรื่องราวความรักโรแมนติกที่อิงจากชีวิตจริง