ด้วยแรงบันดาลใจจากบรรยากาศอันมีสีสันของเซาท์บีช สแลนเท็ด ทาโก้ จึงเป็นร้านอาหารและบาร์สไตล์เม็กซิกันที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา สแลนเท็ด ทาโก้นำเสนออาหารเม็กซิกันสไตล์โฮมเมด จึงเป็นส่วนช่วยเติมเต็มร้านวิสการ์ และคราฟท์ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ในบริเวณเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าสแลนเท็ด ทาโก้ จะได้ เชฟฮอเฮย์ เบอร์นาล เชฟชาวเม็กซิกันผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารกว่า 15 ปี และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารเม็กซิกันในกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ อีกมากมาย แต่คอนเซ็ปต์ของร้านสแลนเท็ด ทาโก้ ซึ่งเป็นการฉีกคอนเซ็ปต์เดิมๆ ของร้านอาหารเม็กซิกันทิ้งไป แล้วกลับมาเน้นย้ำความเป็นต้นตำรับสไตล์เม็กซิกันแท้ๆ แบบดั้งเดิม ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเชฟไม่น้อย
"พูดอย่างง่ายๆ ร้านสแลนเท็ด ทาโก้ คือ ตัวจริงเสียงจริง เรานำเสนอบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่แรงบันดาลใจ สีสัน การตกแต่งที่เต็มไปด้วยพลัง ไปจนถึงการสร้างสรรค์คาแรกเตอร์และมาสคอตต่างๆ ทำให้ร้านสแลนเท็ด ทาโก้ของเราแตกต่างจากร้านอื่นๆ ทุกอย่างผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างดี เพื่อประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับลูกค้าของเรา" เชฟฮอเฮย์ กล่าว
แขกผู้มาเยือนร้านจะสามารถสังเกตเห็นตัวคาแรกเตอร์ต่างๆ ปรากฏในเมนูและการตกแต่งร้าน เช่นเดียวกับมาสคอตของสแลนเท็ด ทาโก้ ที่เป็นผู้หญิงเม็กซิกัน ชื่อ มายา โดยคาแรกเตอร์ต่างๆ ของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากนักมวยปล้ำของเม็กซิกัน และตัวคาแรกเตอร์เหล่านี้ จะใช้สำหรับแสดงส่วนผสมของเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ในอาหารเม็กซิกัน เช่น คานิตาส เป็นคาแรกเตอร์ที่สวมหน้ากากสีชมพู มีจมูกคล้ายหมู จะปรากฏในเมนูเพื่อบ่งบอกว่า อาหารจานนี้ประกอบด้วย 'เนื้อหมูตุ๋นปรุงรสด้วยเครื่องเทศสูตรลับของเชฟ' ในขณะที่ พอลโล รอสติซาโด ซึ่งสวมใส่หน้ากากสีเหลืองแดงพร้อมด้วยหงอนสีแดงบนหัว จะเป็นตัวที่บ่งบอกว่าอาหารจานนี้เป็น 'ไก่อบต้นตำรับสไตล์เม็กซิโกซิตี้'
"เราอยากให้ทุกประสบการณ์เต็มไปด้วยความสนุกสนาน" เชฟฮอเฮย์ กล่าว "เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีสีสันและสดใสมากๆ และเราอยากสะท้อนสิ่งเหล่านั้นออกมาให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสตั้งแต่พวกเขาก้าวเข้ามานั่งลงที่โต๊ะ และเปิดเมนูเลยทีเดียว"
เหล่าแฟนๆ อาหารเม็กซิกันสไตล์โฮมเมดของเชฟฮอเฮย์จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สแลนเท็ด ทาโก้ มีเมนูหลากหลายตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ซุป เมนูพิเศษจากเชฟ เบอริโต้ ทาโก้ เคสดิญา และเมนูพิเศษอย่าง เอล ดิอาโบล เป็นเบอริโตขนาดยักษ์หนักถึง 1.5 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ความรู้ด้านอาหารเม็กซิกันอันกว้างขวางของเชฟฮอเฮย์ ได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณยายและคุณแม่ของเขา ซึ่งสอนเขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอาหารที่มีมาอย่างยาวนานในดินแดนเม็กซิโกซิตี้บ้านเกิด ไม่มีวัตถุดิบอะไรในครัวของเชฟฮอเฮย์ที่มาจากกระป๋องอย่างแน่นอน ลูกค้าที่มาเยือนสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความสดใหม่ของอาหารจากครัวของสแลนเท็ด ทาโก้
"สิ่งสำคัญในการทำอาหารคือการใส่ใจทุกรายละเอียด ส่วนผสมที่สดใหม่ และปริมาณที่แม่นยำ สิ่งเหล่านี้จะทำให้อาหารที่ทำด้วยใจมีรสชาติที่แตกต่าง และสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่รู้ลืม" เชฟฮอเฮย์ กล่าวทิ้งท้าย
ฮาโทร์ กรุ๊ป ได้วางแผนที่จะเปิดร้านสแลนเท็ด ทาโก้ สาขา 2 ที่สีลม ในอนาคตอันใกล้นี้