หอการค้าไทยส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น หลังรัฐบาลเพิ่มนโยบาย Local Economy

ศุกร์ ๒๓ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๒๑
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2559 มีการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะขยายตัวในกรอบ 3.3 ถึง 3.5% การส่งออกเติบโต -1.0 ถึง 0.0% ซึ่งอาจจะฟื้นตัวได้ในปี 2560 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอยู่ในกรอบ 3.5-4.0% การส่งออกจะขยายตัว 0.0 ถึง 2.0% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทย แรงขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการของภาครัฐ การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว การท่องเที่ยวมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อาทิ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลจากแนวนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ การปรับขึ้นดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความเสี่ยงทางการเมืองในภูมิภาคยุโรป รวมถึงการเติบโตชะลอลงของเศรษฐกิจจีน

จากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้รัฐบาลมีแนวทางในการปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกลุ่มจังหวัด ทั้ง 18 กลุ่ม จำนวน 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้แต่ละกลุ่มจังหวัดนำงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ ไปพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละพื้นที่ เป็นการกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น และจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งมากขึ้น

สำหรับนโยบายการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ มุ่งเน้นการดำเนินการแบบประชารัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณ โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม (รัฐ เอกชน ท้องถิ่น ประชาสังคม) ในการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด เพื่อให้การกระจายงบประมาณลงสู่กลุ่มจังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการดึงศักยภาพของกลุ่มจังหวัด ให้เป็น growth engine ในอนาคต และสามารถพัฒนาให้มีความยั่งยืนด้วยตัวเอง ทั้งนี้ จะเป็นการยกระดับเมืองที่เป็นศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาค ให้เจริญเติบโตทัดเทียมกับกรุงเทพมหานคร (Multiple Growth Pole) อย่างไรก็ตาม การที่จะบรรลุเป้าหมายของนโยบายได้นั้น รัฐบาลจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้มีการเสนอโครงการต่าง ๆ จาก 18 กลุ่มจังหวัด ประมาณ 1,000 โครงการ รวมใช้งบประมาณ 83,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ด้านการเกษตร ประมาณ 25,000 ล้านบาท ด้านการท่องเที่ยวและบริการ 32,000 ล้านบาท ด้านการค้าการลงทุนและการค้าชายแดน 7,900 ล้านบาท และด้านโลจิสติกส์ 18,000 ล้านบาท

ดร.เดช เฉิดสุวรรณรักษ์ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าสำหรับตัวอย่างโครงการจากคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ที่ดำเนินการตามแนวนโยบาย Local Economy อาทิ

โครงการแปลงโฉมอยุธยาเมืองมรดกโลก เป็นการปรับโฉมอยุธยาให้เป็นเมืองต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยว

ทางประวัติศาสตร์ (เกียวโตโมเดล) โดยริเริ่มการปรับปรุงในด้านต่างๆ ภายใต้งบประมาณการลงทุนของภาครัฐ 4,700 – 6,700 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายของโครงการฯ จะสามารถสร้างรายได้และเกิดการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่น ได้แก่ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 7 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนในปี 2025 รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 10 เท่า เป็น 140,000 ล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานใหม่ให้กับคนในท้องถิ่นกว่า 100,000 ตำแหน่ง เกิดการลงทุนในร้านอาหาร โรงแรมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างน้อย 25,000 – 30,000 ล้านบาท

โครงการ Amazing Thai Hosts เป็นการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว โดยการดึงบุคคลวัยเกษียณอายุ ในชุมชนท้องถิ่นที่ยังสามารถทำงานได้ เข้ามาเป็นอาสาสมัครด้านการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของคนในท้องถิ่น รวมถึงทำให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุในท้องถิ่นอีกด้วย โดยจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่ 18 กลุ่มจังหวัด ภายใต้วงเงินงบประมาณ200 ล้านบาท (นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 – กุมภาพันธ์ 2561)

โครงการแปลงใหญ่ประชารัฐเกษตรสมัยใหม่ การพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ตามนโยบายประชารัฐ ซึ่งมีเป้าหมายการทำงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรของไทย ใช้การตลาดนำการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มผลิตภาพ ด้วยการพัฒนาการทำเกษตร ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาตลอดห่วงโซ่คุณค่าของภาคเกษตร ตั้งแต่ต้นทาง การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าเกษตร สามารถติดตามผลสอบย้อนกลับได้ กลางทางมีการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร และถึงปลายทางในการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย โดยการเชื่อมโยงความต้องการของตลาด (Market) กับผลผลิตของเกษตรกรและชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่แปลงใหญ่ประชารัฐเกษตรสมัยใหม่ 58 แปลง ครอบคลุม 32 จังหวัด

ดร.เดช กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล ที่จะมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้แก่ 1) มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบ1 – 1.2 หมื่นล้านบาท 2) มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศ มีเงินเข้าสู่ระบเศรษฐกิจ 5 พัน – 1 หมื่นล้านบาท และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 59 เติบโตเพิ่มอีก 0.02% 3) มาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย (ช็อปช่วยชาติ) มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1 - 2 หมื่นล้านบาท 4) มาตรการชะลอการขายข้าว มีเงินเข้าสู่ระบบ 1 – 1.5 หมื่นล้านบาท 5) นโยบาย Local Economy จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตเพิ่มได้อีก 0.5%และ 6) ขอขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในระยะสั้นและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว ซึ่งจากการสำรวจความเห็นจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก เห็นว่าเป็นมาตรการที่ดีมาก แต่เนื่องจากระยะเวลาในการใช้สิทธิ์ตามมาตรการค่อนข้างสั้น และมีสัดส่วนสมาชิกประมาณร้อยละ 80 แจ้งความประสงค์จะใช้สิทธิ์ เพื่อขยายการลงทุน ในปี 2560 วงเงินประมาณ8,000 ล้านบาท หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจึงได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายระยะเวลามาตรการฯ ดังกล่าวออกไปอีก 6 เดือน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4