การฝึกตัวเองให้เป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี อธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะให้ใช้ "3 ฉัน : ฉันเป็น ฉันมี ฉันแก้ไข""ฉันเป็น" คือ มองตัวเองอย่างที่เป็น อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่บริหารเวลา ให้สามารถใช้ชีวิตและดูแลครอบครัวได้อย่างพอเพียง อย่าสร้างเงื่อนไขมากมายให้กับชีวิตหรือรอในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพราะความทุกข์ส่วนใหญ่มักมาจากการมองตัวเองต่างไปจากที่เป็นอยู่ ไม่สนใจปัจจุบันหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า"ฉันมี" คือ มองสิ่งที่ยังมีอยู่ เห็นคุณค่าสิ่งดีๆ ในชีวิต ทั้งจากตัวเราและสิ่งที่อยู่รอบข้าง เช่น มองน้ำครึ่งแก้วว่ายังมีและเติมให้เต็มได้ หรือยังมีครอบครัวที่เรารักและรักเรา อาจฝึกโดยพูดสิ่งที่เป็นบวกกับตัวเองในแต่ละวันเช่น ฉันสามารถเรียนรู้ได้ ฉันทำสิ่งนี้ได้ และทำให้สำเร็จได้ ตลอดจนทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละวันแล้วบันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยการเขียนเรื่องราว หรือวาดภาพเพราะจะทำให้สมองจดจำแต่สิ่งดี ๆ เก็บเกี่ยวแต่เรื่องราวดีๆ โดยอัตโนมัติเราก็จะมีทัศนคติที่ดีขึ้น มีความหวังและกำลังใจที่ดี"ฉันแก้ไข" คือ เรียนรู้บทเรียนชีวิตที่ผ่านมา ไม่จมอยู่กับความผิดพลาดในอดีต ใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นครู เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขโดยอาจให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง ที่จะทำแต่สิ่งดีๆ หรือ ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีบางอย่าง และบอกตัวเองซ้ำๆ เพราะคำมั่นสัญญาดีๆ ย่อมมีผลต่อกระบวนการคิดของตัวเอง พลังความคิดด้านบวกก็จะเกิดขึ้นที่สำคัญต้องลงมือทำอย่างจริงจัง
"ช่วงเวลานี้เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10ไม่มีคำมั่นสัญญาใดที่จะเป็นสิริมงคลสูงสุดให้กับชีวิตเท่ากับ การให้คำมั่นสัญญาที่จะสืบทอดพระปณิธาน น้อมนำพระราชดำรัสและบรมราโชวาทมาใช้เพื่อเตือนสติให้เราทุกคนดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมและจริยธรรมอันดีงามเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง การทำความดีเพื่อส่วนรวม ตลอดจน การสร้างความสามัคคี ลดความรุนแรงจากความขัดแย้ง ทั้งผ่านสื่อสังคมและเวทีต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในปี ระกา 2560 ได้อย่างมีค่า มีความหมาย และมีความสุข ร่วมกัน"อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว