มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ประกาศแต่งตั้งดร. Rajiv Shah อดีตผู้บริหาร USAID เป็นประธานมูลนิธิคนใหม่

ศุกร์ ๐๖ มกราคม ๒๐๑๗ ๐๘:๐๖
ผู้บริหารที่ได้รับความเคารพในวงกว้างและมุ่งมั่นเรื่องความยุติธรรมในสังคม อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านการสนับสนุนความปรองดองระหว่างบุคคลสองกลุ่ม และการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในเชิงนวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมชุมชนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ (The Rockefeller Foundation) เปิดเผยว่า มูลนิธิได้คัดเลือกให้ ดร. Rajiv Shah อดีตผู้บริหารองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) และสมาชิกของคณะผู้จัดการทรัพย์สินประจำมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ คนที่ 13 โดยดร. Shah เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการยกระดับการพัฒนาระหว่างประเทศโดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศ รวมทั้งการดำเนินการที่สามารถบรรลุเป้าหมายผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังได้รับการยกย่องในด้านของการปฏิบัติงานร่วมกับรัฐบาลคู่เจรจา ตั้งแต่อัฟกานิสถานไปจนถึงอเมริกากลาง หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้นำจากสองขั้วในสภาคองเกรส

ในสมัยที่เป็นผู้บริหารของ USAID นั้น ดร. Shah ได้มีบทบาทในการเป็นผู้นำเพื่อรับมือกับวิกฤตด้านมนุษยชนครั้งใหญ่แห่งยุค ซึ่งรวมถึงเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เฮติเมื่อปี 2553 และการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตกเมื่อปี 2557 ซึ่งความพยายามและการดำเนินงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ USAID ทำให้ดร. Shahได้รับเกียรติและการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ในปี 2557 ดร. Shah ได้ขึ้นกล่าว ณ งาน The National Prayer Breakfast และได้แสดงทัศนะว่า สหรัฐฯ สามารถเป็นผู้นำโลกในการขจัดความยากจนขั้นรุนแรงได้ ในฐานะที่ดร. Shah จะทำหน้าที่เป็นประธานมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์คนต่อไป ด้วยประสบการณ์ด้านการต่างประเทศ สาธารณสุขโลก การพัฒนาระดับโลก และการรับมือด้านมนุษยธรรมที่ครอบคลุมในวงกว้าง อีกทั้งประสบการณ์ในการเป็นนักลงทุนภาคเอกชนในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Latitude Capital ส่งผลให้ดร. Shah เป็นผู้ที่มีมุมมองและประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการสานพันธมิตรระหว่างภาครัฐและเอกชนให้ยั่งยืน

นอกจากการทำงานในต่างประเทศแล้ว ดร. Shah ยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันอาหารและการเกษตรแห่งชาติและได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งหนึ่งในคณะผู้บริหารห้องสมุดประชาชนในซีแอตเติล และวิทยาลัยหลายแห่งในซีแอตเติล ปัจจุบัน ดร. Shah จึงขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ พร้อมกับความรู้เกี่ยวกับองค์กรและการดำเนินงานขององค์กรเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้ทำหน้าที่สมาชิกคณะผู้จัดการทรัพย์สินประจำมูลนิธิมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558

ด้วยวัย 43 ปี ทำให้ดร. Shah ก้าวเป็นประธานมูลนิธิที่อายุน้อยที่สุดและยังเป็นชาวอเมริกัน-อินเดียคนแรก Shah จะเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่งใหม่ในวันที่ 1 มี.ค. ต่อจาก ดร. Judith Rodin ผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิมาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี

Dick Parsons ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวว่า "คณะกรรมการบริหารตื่นเต้นอย่างยิ่งกับพลวัตและประสบการณ์ที่ Raj Shah จะนำมาใช้กับองค์กรเพื่อการกุศลแห่งนี้ Raj เป็นตัวเลือกที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารอย่างเป็นเอกฉันท์ หลังกระบวนการวิจัยที่มีการแข่งขันสูง ก่อนหน้านี้ Judith Rodin ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ และกำหนดจุดยืนในการเป็นผู้นำระดับโลกขององค์กรการกุศลที่ทันสมัย ซึ่งเราไม่เห็นใครที่จะเหมาะสมไปกว่า Raj Shah ที่จะเข้ามาบริหารงานที่ล้ำหน้าของสถาบันแห่งนี้ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น"

ดร. Rajiv Shah กล่าวว่า "นับเป็นเวลากว่าศตวรรษที่มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์เป็นมูลนิธิชั้นแนวหน้าในการสรรหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อรับมือความท้าทายที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุดของโลก ผมรู้สึกเป็นเกียรติและได้รับแรงบันดาลใจจากโอกาสในการใช้ประวัติศาสตร์ 103 ปีแห่งผลงานและผลพวงที่ยั่งยืนเป็นพื้นฐานเพื่อพัฒนาต่อ ผมตั้งตารอคอยที่จะกำหนดทิศทางให้แก่มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ เพื่อร่วมงานกับพันธมิตรในการส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ และรับมือกับความท้าทายต่างๆนานาทั้งในปัจจุบันและอนาคตทั้งในสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลก "

"ผมตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ส่งไม้ต่อให้กับ Raj Shah" ดร. Judith Rodin ประธานมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์คนปัจจุบัน กล่าว "ผมยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับ Raj ตลอดระยะเวลาหลายปีขณะที่เขาทำงานอยู่ที่มูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ในฐานะผู้บริหาร USAID และคณะกรรมการของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ในการร่วมงานทุกครั้ง ผมเล็งเห็นความฉลาด แรงขับเคลื่อนเพื่อผลลัพธ์ระดับสูง และความมุ่งมั่นต่อมวลมนุษยชาติของเขามาโดยตลอด ผมเชื่อว่า บทถัดไปของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์จะสดใสเมื่อ Raj Shah ขึ้นมาทำหน้าที่ผู้นำ"

ดร.RAJIV SHAH

ดร.Shah นำประสบการณ์กว่า 20 ปีทั้งในด้านธุรกิจ การเมือง และองค์กรการกุศลมาใช้กับตำแหน่งใหม่ในมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ เมื่อปี 2552 เขาได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโอบามา และยังได้รับการรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์จากวุฒิสภา ให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ USAID ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการปฏิรูปการดำเนินงานและช่วยเหลือ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่มีความท้าทายทั่วโลกของ USAID การที่ ดร. Shah ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 สภานั้นทำให้ USAID สามารถทำงานเพื่อยุติปัญหาความยากจนที่รุนแรงได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการยกระดับความสำคัญของนวัตกรรม ส่งเสริมความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ทบทวนการดำเนินงานภายใน และปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เงินเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีประเด็นที่ติดขัดอยู่หลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็น อำนาจที่มีนัยสำคัญของประธานสภาทั้ง 2 แต่โครงการ Feed the Future and Power Africa ก็ผ่านความเห็นชอบจากทั้งรัฐสภาและวุฒิสภา และได้รับการลงนามเป็นกฎหมายโดยประธานาธิบดีโอบามา พระราชบัญญัติความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก (Global Food Security Act) นี้ นับเป็นกฎหมายด้านการพัฒนาระดับโลกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแผนฉุกเฉินเพื่อบรรเทาปัญหาโรคเอดส์ ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (PEPFAR) การทำงานของดร.Shah ทำให้หลายประเทศหันมาตระหนักถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย, สถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังความขัดแย้ง และวิกฤติด้านมนุษยธรรม ตลอดจนได้รับความไว้วางใจอย่างแพร่หลายในเรื่องการช่วยชีวิตเด็กๆหลายล้านคนทั่วโลกให้สามารถเข้าถึงอาหาร, น้ำ, และสุขอนามัย

ดร.Shah ได้สร้างห้องปฏิบัติการ United States Global Development ขึ้นเมื่อปี 2557 เปิดทางให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายที่หลากหลายของนานาประเทศ รวมทั้งปัญหาเรื่องน้ำ, สุขอนามัย, ความมั่นคงทางอาหาร,โภชนาการ พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้เขายังรับผิดชอบในเรื่องการปฏิรูปภายในอย่างครอบคลุม ซึ่งได้ส่งผลต่อทุกส่วนงาน ตลอดจนทบทวนนโยบายที่ผิดพลาดของกระทรวงต่างประเทศ และดึงงบประมาณกลับมาให้กับ USAID อีกทั้งยังสรรหาผู้ที่มีความสามารถระดับชั้นนำจากหลากหลายสาขาเข้ามาช่วยงานอีกด้วย ดร.Shah ได้พูดถึงประเด็นสำคัญนี้ในขณะเข้าร่วมกิจกรรม National Prayer Breakfast ซึ่งเขาได้รับเชิญจากผู้นำจากทั้ง 2 สภา เมื่อปี 2557

หลังจากที่ได้ลาออกจาก USAID เมื่อปี 2558 ดร.Shah ยังคงทำตามความปรารถนาของตนเองที่ต้องการสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับชุมชนในประเทศกำลังพัฒนา ด้วยการจัดตั้งกองทุน Latitude Capital ซึ่งเป็นกองทุนนอกตลาดที่มุ่งลงทุนในโครงการด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในทวีปแอฟริกาและเอเชีย

ดร. Shah สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเมืองแอนน์ อาร์เบอร์, มหาวิทยาลัยการแพทย์เพนซิลเวเนีย และโรงเรียนธุรกิจวาร์ตัน โดยที่เขาเติบโตและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่นอกเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารของ USAID นั้น ดร. Shah เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์และปลัดกระทรวงเกษตรของสหรัฐในส่วนงานวิจัย การศึกษาและเศรษฐกิจ นอกจากนี้เขายังได้มีบทบาทเป็นผู้บริหารของ มูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ ซึ่งที่นี่เอง ดร. Shah ได้ช่วยจัดตั้ง Alliance for a Green Revolution in Africa (การลงทุนร่วมกันของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์กับมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์) และ International Financing Facility for Immunization (ซึ่งมีผลงานในการระดมทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือเด็กทั่วโลกในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน) ดร. Shah ได้สนับสนุนให้จัดตั้ง Global Development Program ปัจจุบันเขามีตำแหน่งเป็น Distinguished Fellow in Residence ที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และอาศัยอยู่กับ Shivam Mallick ภรรยาของเขา พร้อมกับบุตร 3 คนในกรุงวอชิงตัน ดีซี

เกี่ยวกับมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ นับเป็นเวลากว่า 100 ปีมาแล้วที่มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ได้สืบสานพันธกิจในการส่งเสริมให้ผู้คนทั่วโลกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัจจุบัน มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่จุดหมาย 2 ประการ นั่นก็คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายมิติเพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายความมั่งคั่ง และการเสริมสร้างความเข้มแข็งโดยการช่วยเหลือผู้คน ชุมชน และสถาบันต่างๆให้สามารถรับมือ ยืนหยัด และแข็งแกร่งขึ้นจากภาวะผันผวนและความเครียดเรื้อรัง และเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้นั้น มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์จึงให้ความสำคัญไปกับการส่งเสริมเรื่องการมีสุขภาพที่ดี การประเมินค่าระบบนิเวศน์ใหม่ การสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต และการเปลี่ยนแปลงสังคมเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายที่บ่งชี้ให้เห็นถึงรากฐานของปัญหาความท้าทาย และสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีระบบ มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์พร้อมด้วยพันธมิตรและผู้รับทุนทั้งหลาย ได้พยายามส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม และขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังภาคส่วนต่างๆ นอกจากนี้ยังแบกรับความเสี่ยงที่ผู้คนทั่วไปไม่อาจทำได้หรือไม่ประสงค์ที่จะแบกรับ สามารถรับดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rockefellerfoundation.org

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4