ครม.เห็นชอบปรับราคารับ-ซื้อเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น

ศุกร์ ๑๓ มกราคม ๒๐๑๗ ๑๓:๐๓
คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้าถั่วเหลือง 3 ปี ภายใต้ WTO โดยไม่จำกัดปริมาณ อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 ระบุ ผู้มีสิทธินำเข้า 3 กลุ่ม ต้องรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกรภายในประเทศ ตามชั้นคุณภาพ ในราคาไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำที่กำหนด ได้แก่ เกรดสกัดน้ำมัน เกรดผลิตอาหารสัตว์ และเกรดแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ในราคากิโลกรัมละ 17.50 บาท 17.75 บาท และ 19.75 บาท ตามลำดับ

นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 เห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้าถั่วเหลือง 3 ปี ภายใต้กรอบ WTOโดยให้นำเข้าไม่จำกัดปริมาณ ในอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 ซึ่งมีเงื่อนไขให้ผู้มีสิทธินำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองต้องรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศจากเกษตรกรทั้งหมดในราคาที่กำหนดตามชั้นคุณภาพ โดยปรับราคารับซื้อขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากปี 2559กิโลกรัมละ 2 บาท ทุกชั้นคุณภาพ

สำหรับการเปิดตลาดนำเข้าถั่วเหลือง เป็นไปตามมติคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชที่มีรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นประธาน โดยผู้มีสิทธินำเข้ามี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้นำเข้าเพื่อสกัดน้ำมัน ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว 2. ผู้นำเข้าเพื่อผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่ สมาคมปศุสัตว์ไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยสมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออก สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อการส่งออก สมาคมผู้ค้าสินค้าเกษตรกับประเทศเพื่อนบ้าน และสมาคมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูป และ 3.นำเข้าเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ บริษัท กรีนสปอต จำกัด บริษัท แลคตาซอย จำกัด บริษัท ไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท แดรี่ พลัส จำกัด บริษัท ไทยชิม จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิคโคเคน บริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) บริษัท นอร์ธเทอร์น ฟู้ด คอมเพล็กซ์ จำกัด บริษัท บุญเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท โทฟุซัง จำกัด บริษัท อุเมะโนะฮานะ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท สหชลพืชผล จำกัด บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด บริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด บริษัท อินทัชธนกร จำกัด และบริษัท ตอยยีบันฟู้ดส์ จำกัด

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธินำเข้าข้างต้น ต้องรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกรภายในประเทศตามชั้นคุณภาพในราคาไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำที่กำหนด โดยเมล็ดถั่วเหลืองต้องมีความชื้นไม่เกินร้อยละ 13 ของน้ำหนัก มีการกำหนดขนาด สี สิ่งเจือปน เมล็ดเสียและเมล็ดแตก จำแนกออกเป็น 3 ชั้นคุณภาพ ได้แก่ เกรดสกัดน้ำมัน เกรดผลิตอาหารสัตว์ และเกรดแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ในราคากิโลกรัมละ 17.50 บาท 17.75 บาท และ 19.75 บาท ณ ไร่นา ตามลำดับ และบวกเพิ่มให้กิโลกรัมละ 0.75 บาท สำหรับการรับซื้อ ณ หน้าโรงงาน อย่างไรก็ตาม เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองมักจะขายโดยไม่คัดเกรด จึงขอให้เกษตรกรให้ความสำคัญกับการจัดการคัดแยกคุณภาพเมล็ดถั่วเหลือง เพื่อให้ได้ตามชั้นคุณภาพที่กำหนด ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และผลตอบแทนมากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๓๐ นิสิตวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวฯ มก. คว้า 3 รางวัล การแข่งขัน 5MSPP 2024 ชนะเลิศ-รองชนะเลิศอันดับ 1-ชมเชย
๑๓:๒๘ คณะวิศวฯ มก. สำรวจ-แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม พื้นที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโนนสัง จ.หนองบัวลำภู
๑๓:๑๓ ผู้บริหาร- อาจารย์ คณะวิศวฯ หารือความร่วมมือ ม.ไต้หวัน
๑๓:๔๖ DE BEAU CLINIC ตอกย้ำเป็นผู้นำคลินิกเสริมความงาม ฉลองครบรอบ 14 ปี ปล่อยโปรสุดพิเศษ!
๑๓:๒๕ PRM ขนส่งน้ำมัน Jet A1 พุ่ง อานิสงส์ท่องเที่ยวซัมเมอร์หนุน
๑๓:๒๐ วว. โดย สถานีวิจัยลำตะคอง จัดกิจกรรมต้อนรับปิดเทอม ยอดนักสืบ.โลกแมลง รุ่นที่ 1
๑๓:๔๕ ลงพื้นที่สำรวจแปลงมะพร้าวติดตามสถานณ์โรคและแมลงในช่วงฤดูแล้ง
๑๓:๒๓ แม็ทชิ่ง กรุ๊ป จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจรายได้เป็นไปตามเป้า
๑๓:๔๖ เอเอ็มอาร์ เอเซีย จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผ่านฉลุย ผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบทุกวาระ
๑๓:๑๙ Prepay Nation ร่วมมือกับ MULA เพื่อลดช่องว่างทางการเงินสำหรับแรงงานต่างด้าว