พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 16 – 22 มกราคม 2560 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้ 12 จังหวัดดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก โดยดำเนินการ ผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงจัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับเป็นจุดอพยพหรือจุดพักพิง เพื่อให้สามารถอพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที หากสถานการณ์รุนแรงให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพที่จังหวัดสามารถรับมือสถานการณ์ภัยได้ ให้แจ้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อประสานให้การช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 12 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยและดินโคลนถล่มได้ สำหรับชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ เนื่องจากคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป