"อะคาเซียกัม" ผลผลิตจากธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญในกลุ่มประเทศซาเฮล ทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

อังคาร ๑๔ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๗:๐๕
ต้นอะคาเซียเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีอนาคตสดใสมากที่สุดในแอฟริกา และเป็นต้นกำเนิดของยางไม้ที่เรียกว่า อะคาเซียกัม (Acacia gum) หรือ กัมอารบิก (gum Arabic) ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวัน จึงนับเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมาย

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่

https://www.multivu.com/players/uk/8051551-acacia-gum-southern-sahel-countries/

มนุษย์เราใช้ประโยชน์จากอะคาเซียกัมมาตั้งแต่ 2650 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวอียิปต์โบราณได้นำมารับประทานและใช้ทำผ้าห่อมัมมี่ [1] ปัจจุบัน อะคาเซียกัมผลิตกันอย่างแพร่หลาย ครอบคลุมตั้งแต่ประเทศเซเนกัลไปจนถึงประเทศเอริเทรีย รวมถึงในพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้งทางตอนใต้ของทะเลทรายสะฮารา

อะคาเซียกัมเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชากรผู้ยากไร้ในกลุ่มประเทศซาเฮล โดยประชากรราว 3 ล้านคนอยู่ได้ด้วยการเก็บยางอะคาเซียกัม [2] ต้นอะคาเซียจึงเป็นทรัพย์สินอันมีค่าสำหรับคนในชุมชน เพราะสามารถเติบโตได้อย่างดีในทะเลทรายและพื้นที่แห้งแล้ง

นอกเหนือจากประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจสำหรับประชากรผู้ยากไร้แล้ว ต้นอะคาเซียยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะช่วยบำรุงดินด้วยการเพิ่มธาตุไนโตรเจนและฟื้นฟูความสมบูรณ์ของดิน ทั้งยังสร้างร่มเงาและเป็นที่พักพิงให้กับเกษตรกรและปศุสัตว์ และที่สำคัญคือเป็นแหล่งผลิตอะคาเซียกัม นอกจากนี้ ต้นอะคาเซียยังเป็นทรัพยากรที่มีความยั่งยืน และการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นอะคาเซียก็ช่วยเตรียมหน้าดินสำหรับการเพาะปลูก ทั้งยังป้องกันไม่ให้พื้นที่เพาะปลูกแปรสภาพเป็นทะเลทรายด้วย

ต้นอะคาเซียช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพได้เป็นอย่างดี โดยเป็นทั้งอาหารปศุสัตว์และที่พักพิงของนกหลายชนิด รากของต้นอะคาเซียสามารถหยั่งลึกลงไปถึงระดับน้ำใต้ดิน จึงไม่ดูดน้ำในดินมากเกินไปจนทำให้ดินเสื่อมภาพ [3] ต้นอะคาเซียสามารถดูดน้ำไปใช้ได้แม้ว่าจะอยู่ลึกมากก็ตาม ขณะที่ร่มเงาของต้นอะคาเซียก็ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำระเหยเร็วเกินไป และยังช่วยให้น้ำใต้ดินกลับคืนมาด้วย ส่วนในฤดูแล้ง ต้นอะคาเซียก็มีน้ำให้แก่สัตว์ทั้งหลาย [4]

อะคาเซียกัมเป็นผลผลิตจากธรรมชาติ 100% และไม่สามารถใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวได้ สำหรับอะคาเซียกัมจากบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Alland & Robert ได้รับการยอมรับจากบรรดาบริษัทอาหารรายใหญ่ว่า เป็นธรรมชาติ ปลอดจีเอ็มโอ และไร้ยาฆ่าแมลง [6] ทั้งนี้ Alland & Robert ดำเนินธุรกิจในแอฟริกาโดยยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ

อ้างอิง

1. http://revuelespritlibre.org/e414-les-gommiers-du-soudan-sur-lechiquier-mondial

2. http://www.yves-rocher.fr/control/com/fr/l-herbier-digital/l-acacia-du-senegal

3. http://apac-isabey.asso-web.com/actualite-22-parlons-du-pourquoi-de-lacacia-dans-notre-association.html

4. http://www.fao.org/docrep/v5360f/v5360f07.htm

5. http://www.hotelseconews.com/La-gomme-d-acacia-un-produit.html

6. http://www.neoplanete.fr/podcast/lacacia-ca-degomme-gomme-arabique/

(รูปภาพ: http://mma.prnewswire.com/media/473400/Acacia_Gum.jpg )

ที่มา: Alland & Robert

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest