นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดสาธารณภัยบ่อยครั้ง ทวีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นหน่วยงานแรกที่ดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระดับพื้นที่ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสาธารณภัยแก่หน่วยงานระดับท้องถิ่น ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ "โครงการฝึกอบรมการพัฒนาความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยกรณีฉุกเฉินและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเสริมสร้างความรู้ พัฒนาทักษะด้านการเตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัย การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการกู้ชีพขั้นพื้นฐานแก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถเผชิญเหตุ รับมือ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายและลดผลกระทบจากสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะดำเนินการสนับสนุนทางวิชาการในการฝึกอบรม ขณะที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจะเป็นผู้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ โครงการฯ ดังกล่าวถือเป็นแนวทางสำคัญในการดำเนินมาตรการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดการสาธารณภัยและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับชุมชน กล่าวได้ว่า ความร่วมมือฯ ดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับพื้นที่ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นเครือข่ายสำคัญในการสนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติแล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้วาระ "ประเทศไทยปลอดภัย (Safety Thailand)"
รองศาสตราจารย์ ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมีความพร้อมในการสนับสนุนการฝึกอบรมการพัฒนาความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยกรณีฉุกเฉินและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการสาธารณภัยและปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับพื้นที่ ซึ่งความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นมิติหนึ่งที่นำไปสู่การยกระดับมาตรฐานการจัดการสาธารณภัยของประเทศให้เทียบเท่าสากล สามารถรองรับสาธารณภัยที่รุนแรงมากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ รวมถึงก้าวทันการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล "ไทยแลนด์ 4.0"