นายนภปฎล สุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวในฐานะผู้จัดงานว่า "มีประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้ที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ผู้ที่ปฏิบัติงานในองค์กรด้านพลังงานให้ความสนใจตามที่คาดไว้ โดยโซนไฮบริดและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โซนโซล่าเซลส์ และโซนระบบเมืองอัจฉริยะ เป็นเทรนด์พลังงานที่ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้ การประชุม สัมมนา ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ CLMVT Energy Forum, Smart Grids in Power System, ทิศทางประเทศไทย: พลังงานที่ยั่งยืน ฯลฯพูดถึงพลังงานอย่างครอบคลุมครั้งแรกของไทยและของเอเชีย ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย การผลิตกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานต่าง ๆ การนำไปใช้ โดยเฉพาะการขนส่ง การต่อยอด จนถึงการเป็น Smart City มีผู้สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวด้านพลังงานในทุกรูปแบบ และไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชีย"
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า "ประเทศไทยได้แสดงถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาภาคพลังงานของประเทศ และพัฒนาสู่ความเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2015) เพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้ได้ 40% และติดตามเทคโนโลยีที่จะลดต้นทุนพลังงานทดแทนลง ปัจจุบันการผลิตไฟจากพลังงานทดแทนตามแผน PDP ในช่วง 2 ปี มีสัญญาผูกพัน 9,000 กว่า เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตที่วางไว้สิ้นสุดแผนปี 2579 ที่ 19,600 เมกะวัตต์"
ภายในงานครั้งนี้ ประเทศไทยยังประกาศว่า จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 20-25 % ซึ่งต่อยอดจากการประชุม COP21 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในการที่ 193 ประเทศตกลงร่วมมือกันควบคุมอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงเกิน 2°C
พบกับงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ "โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2561" หรือ "SETA 2018"ได้ในวันที่ 21-23 มีนาคม 2561 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ในเว็บไซต์www.SETA.Asia