Tallsters แนะเทคนิคเพิ่มความสูงเด็กในช่วงปิดเทอม เสริมสร้างความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

จันทร์ ๒๗ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๒๙
ความเชื่อที่ว่าอายุเกิน 21 ร่างกายจะหยุดสูง หรือ กรรมพันธุ์พ่อแม่เตี้ยลูกก็เตี้ยตาม ความคิดแบบนี้เมื่อ 60 ปีก่อนอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ด้วยวิวัฒนาการด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่สามารถทำลายความเชื่อแบบนั้นได้ เมื่อสามารถเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 เซนติเมตร นับเป็นเรื่องดีต่อใจสำหรับคนเตี้ยที่อยากสูง หรือคนที่อยากสูงแต่อายุอยู่ในช่วงวัย 30 แล้ว

ดร.บัณลักข ถิระมงคล หรือ "หมอหญิง High Expert" ผู้อำนวยการคลินิกดีสปายน์ และสถาบันเพิ่มความสูง Tallsters บอกว่า ความสูงของคนถือว่าเป็นมิติหนึ่งของการเจริญเติบโต โดยทั่วไปแล้วการที่คนเราจะสูงได้แค่ไหนนั้น มีปัจจัยหลักๆอยู่ 4 อย่างด้วยกันคือ ปัจจัยแรกเป็นเรื่องของพันธุกรรม เช่น พ่อแม่สูง 160 ลูกก็มีโอกาสสูง 160 เซนติเมตรได้ หรือพูดได้ว่าถ้าพ่อแม่เตี้ยลูกก็จะเตี้ย หากพ่อแม่สูงลูกก็มีแนวโน้มที่จะสูง ส่วนปัจจัยที่สองคือเรื่องของโภชนาการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของโปรตีนและแคลเซียม รวมทั้งอาหารกลุ่มอื่นๆ เช่น อาหารที่ให้พลังงาน วิตามินและเกลือแร่ก็มีความสำคัญเช่นกัน ส่วนปัจจัยที่สามคือเรื่องของการออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้กระดูกมีการเจริญเติบโตเป็นไปตามปกติ และปัจจัยสุดท้ายคือเรื่องของความเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อความสูง เช่นเด็กที่ป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารถือเป็นความเจ็บป่วยชนิดหนึ่งที่ทำให้เด็กเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ในด้านน้ำหนักและความสูง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโรคทางพันธุกรรมบางอย่างของกระดูก หรือ โรคต่อมไร้ท่อ เช่น เนื้องอกของต่อมใต้สมอง ถ้าขาดฮอร์โมนของการเจริญเติบโตจะทำให้เด็กแคระแกร็นได้

ดร.บัณลักข ระบุว่า ในสังคมตั้งคำถามมากมายว่าอายุเท่าไหร่ร่างกายถึงจะหยุดสูง ถ้าจะบอกว่าร่างกายไม่จำกัดอายุในการเจริญเติบโตด้านความสูงก็อาจจะฟังดูโอเว่อร์ แต่จะประมวลคร่าวๆ ได้ว่า หากเด็กอายุตั้งแต่ 12-13 ปีได้รับการปรับโครงสร้างร่างกายและเข้าโปรแกรมเพิ่มความสูงจะสามารถสูงเพิ่มได้มากถึงปีละ 10-12 เซนติเมตร ส่วนเด็กวันรุ่นอายุตั้งแต่ 20-30 ปี หากเริ่มโปรแกรมเพิ่มความสูงสามารถเพิ่มได้อีกปีละ 5-7 เซนติเมตร และวัย 30-40 ปี สามารถเพิ่มและพัฒนาความสูงได้มากถึง 3-5 เซนติเมตรเลยทีเดียว

ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มความสูง Tallsters แนะเทคนิคการเพิ่มความสูง โดยอาศัยเทคนิคดังต่อไปนี้

1. การกระตุ้นโกรทฮอร์โมนด้วยเทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกวิธี เพราะถ้าไม่ถูกวิธีจะกลายเป็นการออกกำลังกายแทนการเพิ่มความสูง ซึ่งสามารถทำได้โดยการกระโดด เช่น กระโดดแทรมโพลีน ซึ่งจะมีด้วยกัน 4 ท่า โดยเริ่มจากท่าแรกคือ Side kick คือการกระโดดด้วยขาข้างเดียวและเตะขาไปทางด้านข้างซ้ายขวา อย่างน้อย 3 เซ็ทๆ ละ 10 ครั้ง ส่วนท่าที่สอง Front Kick คือการสะบัดเตะขาไปทางด้านหน้า เพื่อจะได้มีการสะบัดบริเวณข้อต่อเข่า ข้อต่อเท้า และเบ้าสะโพก เพื่อช่วยทำให้ขายืดยาวมากขึ้น ทำสลับซ้ายขวา อย่างน้อย 3 เซ็ทๆ ละ 10 ครั้ง ส่วนท่าที่สามคือท่า High Knee เป็นท่าการวิ่งและยกเข่าด้านหน้าขึ้นสูง เพื่อจะทำให้การทรงตัวและช่วยทำให้ข้อต่อกระดูกบริเวณสะโพกและเข่าได้ขยับ ได้มีพื้นที่ให้กระดูกได้ยืดและขยายเพิ่มมากขึ้น วิธีการทำโดยการกระโดดและยกขาขึ้นงอให้หัวเข่าอยู่ขนานกับลำตัวช่วงเอว ทำสลับซ้ายขวา อย่างน้อย 3 เซ็ทๆละ 10 ครั้ง และท่าที่สี่คือท่า Scissor Kick คือการกระโดดโดยเตะขาสลับขากรรไกร เพื่อกระตุ้นให้ข้อต่อของเท้าและสะโพกได้ขยายตัว ทำสลับกัน 3 เซ็ทๆ ละ 10 ครั้ง

2. ควบคุมอาหารหรือลดอาหารที่ส่งผลต่อความหนาแน่นของกระดูก เช่น การดื่มกาแฟ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟนจะทำให้เพิ่มความเป็นกรดในเลือด ร่างกายจึงต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกสันหลังออกมาเพื่อรักษาความเป็นด่างอ่อนๆในร่างกาย ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ นอกจากนี้น้ำอัดลมก็มีโอกาสทำให้ผู้ที่ดื่มเกิดกระดูกพรุนได้มากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มได้ 3-4 เท่า สำหรับอาหารที่แนะนำเลยคือ แคลเซียมที่เป็นผลดีต่อกระดูกและฟัน เช่น นม โยเกิร์ต เนยแข็ง แต่แนะนำให้เป็นนมพร่องมันเนยจะปลอดภัยกว่า นอกจากนี้อาหารพื้นบ้านอย่าง ปลากรอบ กุ้งแห้ง กะปิ ผักใบเขียว เต้าหู้แผ่น และถั่วเหลือง ล้วนเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเช่นกัน โดยเฉพาะถั่วเหลืองนอกจากจะชะลอความเสื่อมของกระดูกแล้วยังลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วย

3. เตรียมตัวต้อนรับโกรทฮอร์โมนด้วยการ เข้านอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม ปิดไฟ ปิดม่าน ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด แล้วเข้านอน เพราะในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา

ถ้าหากในช่วงปิดเทอมน้องๆ สามารถทำได้ครบทุกข้อและปฏิบัติตามอย่างถูกต้องและถูกวิธี เชื่อว่าน้องๆ จะสามารถเพิ่มความสูงได้ถึง 1-5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละคน

และถ้าหากใครอยากได้ความรู้และเทคนิคเพิ่มเติมโดยต้องการเพิ่มความสูงภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้ารับฟังข้อมูลการบรรยายและสาธิตการเพิ่มความสูงได้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15 (Bangkok International Book Fair 2017) ในวันที่ 3 เมษายน 2560 เวลา 15.00 น. ณ เวทีกลาง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติต์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ภายในงานจะมีการเปิดตัวหนังสือ "สูงสุด...ไม่หยุดสูง" โดย ดร.บัณลักข ถิระมงคล จากสถาบันเพิ่มความสูง Tallsters ภายในงานจะมีน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มความสูง มาบอกเล่าประสบการณ์ และโชว์ความสูงที่สามารถเพิ่มได้จริง พร้อมทั้ง นักแสดงสาว "มัดหมี่ พิมพ์ดาว พานิชสมัย" ที่เข้าร่วมเพิ่มความสูงและสามารถเพิ่มได้จริง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tallsters.com หรือเฟซบุ๊คแฟนเพจ หมอหญิงสูงสร้างได้tallsters

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?