นายจ้างนำหนี้อื่นมาหักค่าจ้างลูกจ้างหรือยึดบัตรประชาชนมีโทษหนัก

จันทร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๑๗ ๑๑:๕๕
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน แจงข้อกฎหมายนายจ้างนำค่าชุดทำงาน ค่าที่พักอาศัย หรือค่าใช้จ่ายอื่นมาหักจากเงินค่าจ้างของลูกจ้าง หรือยึดบัตรประชาชนใช้เป็นหลักประกันการทำงานไม่ได้ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ชี้แจงว่า จากกรณีมีข่าวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางส่วนถูกหักค่าชุดทำงาน ค่าเช่าห้อง ถูกนายจ้างยึดบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเป็นหลักประกันการทำงานนั้น นายจ้างหรือสถานประกอบกิจการต่างๆ ไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายใดๆ มาหักจากค่าจ้างของลูกจ้างได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ได้กำหนดห้ามนายจ้างหักเงินค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดหรือค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่การหักเพื่อ 1. ชำระภาษีเงินได้ตามจำนวนที่ลูกจ้างต้องจ่ายหรือชำระเงินอื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ 2. ชำระค่าบำรุงสหภาพแรงงานตามข้อบังคับของสหภาพแรงงาน 3. ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันกับสหกรณ์ออมทรัพย์หรือหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียวโดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกจ้าง 4. เป็นเงินประกันตามมาตรา 10 หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างซึ่งลูกจ้างได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง และ 5. เป็นเงินสะสมตามข้อตกลงเกี่ยวกับกองทุนเงินสะสม การหักเงินจากลูกจ้างทั้ง 5 ประเภท ที่กล่าวข้างต้นต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าจ้าง ที่ลูกจ้างได้รับ และต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนเท่านั้น จึงจะหักเงินทั้ง 5 ประเภทดังกล่าวข้างต้นได้ การที่นายจ้างนำหนี้อื่นมาหักจากค่าจ้าง มีโทษตามมาตรา 144 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อธิบดี กสร. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่ลูกจ้างถูกนายจ้างยึดบัตรประจำตัวประชาชนไว้ โดยเฉพาะตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยถือว่านายจ้างมีความผิด เพราะนายจ้างไม่สามารถยึดบัตรประชาชนใช้เป็นหลักประกันการทำงานได้ เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ให้นายจ้างเรียกหลักประกันการทำงานจากลูกจ้างได้ 3 ประเภท คือ เงินสด ทรัพย์สิน และการค้ำประกันด้วยบุคคล ซึ่งการเรียกหลักประกันจะต้องไม่เกินวงเงิน 60 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันที่ลูกจ้างได้รับ การที่นายจ้างยึดบัตรประชาชนไว้เป็นหลักประกันการทำงาน หรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานจากลูกจ้าง ขัดต่อหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานประกาศกำหนด มีโทษตามมาตรา 144 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกหักค่าชุดทำงาน ค่าที่พักอาศัย ถูกยึดบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักประกันการทำงาน สามารถร้องเรียนและเรียกร้องสิทธิประโยชน์คืนได้ โดยติดต่อที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 , สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่โทรศัพท์สายด่วน 1546

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๒๒ เสนา ตอกย้ำความสำเร็จ ในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
๐๙:๑๑ EP พร้อมเดินหน้ารับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ดันผลงานปี67โตทะยาน 4 เท่า หลังได้รับการสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก
๐๙:๓๘ BEST Express บุก บางบัวทอง เปิดแฟรนไซส์ขนส่งสาขาใหม่ มุ่งศึกษาพื้นที่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง ตอบความต้องการตรงจุด
๐๙:๑๗ ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด
๐๙:๓๗ CPANEL APM ร่วมต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวกัมพูชา พร้อมนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิต Precast จ.ชลบุรี
๐๘:๒๒ SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,725 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
๐๘:๐๑ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนมัธยม โชว์หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์
๐๘:๔๗ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รุ่นที่ 4 ขยายความรู้ทางการเงินสู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง
๐๘:๕๓ ส่องสัญญาณฟื้นตัว ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 รับผลบวกมาตรการรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ - ยอดสั่งสร้าง
๐๘:๕๕ RSP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 15 พ.ค. นี้