ฝนหลวงฯ เร่งปฏิบัติการเติมน้ำต้นทุนในภาคอีสานตอนล่าง

นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงได้ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนมาตลอดในช่วงสภาพอากาศที่เหมาะสมโดยใช้ 2 หน่วยปฏิบัติการ ลพบุรี และบุรีรัมย์ ร่วมถึงประสานงานกับกรมชลประทานมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป มีการปรับแผนการปฏิบัติการโดยจะย้ายหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ มาที่จังหวัดนคราชสีมา เนื่องจากการฝึกบิน COPE TIGERทำการฝึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเร่งดำเนินการเติมน้ำและสร้างความชุ่มชื้นบริเวณดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น และเมื่อวันที่31 มีนาคม 2560 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดลพบุรีได้ขึ้นปฏิบัติการ พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิง

ในส่วนของการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จังหวัดลพบุรี ได้ปฏิบัติการฝนหลวงดัดแปรสภาพอากาศให้พื้นที่ภาคการเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิง พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยบริเวณอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคการเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำปาว พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยบริเวณอำเภอหนองกุงศรี อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ด้านศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคการเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองสียัด และอ่างเก็บน้ำประแสร์ พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง อำเภอแก่งหางแมว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคการเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนปราณบุรี พบว่ามีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยภาพรวมของการปฎิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน ๒๕ วัน จำนวน ๔๔๓ เที่ยวบิน (๖๖๒.๑๕ ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สาร ฝนหลวง ๓๖๔.๓๐ ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ จำนวน ๔๔๔ นัด จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม ๔๕ จังหวัด และมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม ๗๑.๙๑ ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ จากการบูรณาการระหว่างกรมฝนหลวงฯ และกรมชลประทาน ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่าวิกฤติภัยแล้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ได้ที่เพจ Facebookกรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือ เว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตรwww.royalrain.go.th