นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประจำประเทศไทย (Country Manager) และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2560 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหัวใจหลัก โดยตอกย้ำนโยบายผ่านการทำตลาดที่มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกับประกันผ่านบริการของบริษัท เพราะเจนเนอราลี่เป็นบริษัทประกันชั้นนำจากประเทศอิตาลีที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกมายาวนาน ด้วยสาขาที่ครอบคลุมกว่า 60 ประเทศ มีฐานลูกค้ากว่า 55 ล้านคนทั่วโลก
ทั้งนี้ในด้านการขยายงานของทางกลุ่มเจนเนอราลี่ ทางกลุ่มให้ความสำคัญกับตลาดในเอเชียว่าเป็นตลาดที่จะสามารถสร้างการเติบโต และเพิ่มมูลค่าธุรกิจได้ในระยะยาว โดยประเทศไทยเป็น 1 ในตลาดที่สำคัญของภูมิภาคเอเซีย ที่ทางกลุ่มมั่นใจในศักยภาพการขยายธุรกิจ และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ผลงานของปี พ.ศ. 2559 ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม ด้านประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวม (GWP) โต 26% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2558 ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเติบโตจากสายงานผ่านธนาคาร สายงานตัวแทน สายงานไดเร็คชาแนล และประกันสุขภาพกลุ่ม สำหรับประกันวินาศภัย เรามียอดเติบโตของเบี้ยรับรวม (GWP) ถึง 42% ซึ่งเติบโตจากสายงานประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ และประกันรถยนต์เป็นหลัก
โดยปีที่ผ่านมา ธุรกิจประกันชีวิตของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากช่องทางตัวแทน ที่เรามีโครงสร้างอาชีพที่โดดเด่น การจัดการกิจกรรมงานขาย (sales activity management ) ที่มีประสิทธิภาพ และ กลยุทธ์การเจาะตลาด ( Generali Agency Office) ไปสู่ภูมิภาค ส่งผลให้เรามีจำนวนตัวแทนเติบโตถึง 322 % และ APE โตถึง 558% ส่วนการเติบโตทางช่องทางขายผ่านธนาคาร (Bancassurance) เราได้ออกผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์ หรือประกันควบการลงทุน KKGEN Investlink ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 300 ล้านบาทภายใน 2 เดือนแรก สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2560 นี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบเท่าตัว ทั้งเดินหน้าขยายช่องทางตัวแทน และขยาย Port ของยูนิตลิงค์ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ มาประยุกต์ใช้ในตลาดประเทศไทย
"เป้าหมายสำหรับปี พ.ศ.2560 นี้ เรายังคงยึด Brand Essence "ประกันความรักคุณ" แต่เจนเนอราลี่จะยกระดับความมั่นใจในการประกันด้วยการสร้างการรับรู้ของลูกค้าถึงการเป็นองค์กรที่เป็นเลิศใน 3 ด้าน คือ 1. Best Choice เพราะเราคือประกันที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ เจนเนอราลี่ กลายเป็น best choice ในใจลูกค้า ด้วยความเป็นเลิศในการบริหารจัดการและเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในแถบยุโรป 2. Best Service เราต้องการให้ทุกคนรับรู้ว่าเราเป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพในการให้บริการที่ดีเยี่ยม จากผลตอบรับที่ดีของลูกค้าทุกช่องทางการขายในปัจจุบัน เพราะเราเข้าใจดีว่าลูกค้าต้องการอะไร เราจึงดึงจุดเด่นที่เรามีความเข้มแข็งทางด้านการบริการ เช่น มีเครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำกว่า 300 แห่ง มีระบบการเคลมที่รวดเร็ว มี Digital Platform ที่ตอบสนองการบริการได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่าน แอปพลิเคชั่น Generali365 ที่ให้คุณเช็ค ค้นหา โรงพยาบาลที่สะดวก นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายให้แก่ลูกค้าตลอด 365 วัน และบริการอื่นๆ ที่สะดวกรวดเร็ว อย่างเช่นการดาวน์โหลดใบเสร็จกรมธรรม์เพื่อใช้ในการยื่นภาษีได้ง่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในยุคปัจจุบัน 3. Best Solution เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายพร้อมรองรับทุก lifestyle และ life stage เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ทั้งนี้ภายใต้การสร้างองค์กรที่เป็นเลิศ เจนเนอราลี่จะยังเป็นบริษัทนำเสนอ solution ให้ผู้บริโภคได้อย่างตรงความต้องการ (need based offering) พร้อมสร้างผลประโยชน์สูงสุด และตอบสนองในระยะยาว เช่น ล่าสุดแบบประกันควบการลงทุน KKGEN Investlink ยูนิตลิงค์ แบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว (Single Premium) ตอบรับความต้องการของนักลงทุนยุคใหม่ ที่ได้ทั้งความคุ้มครองและคุ้มค่าด้านการลงทุน
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ ทางเจนเนอราลี่ต้องการเป็นหนึ่งในใจของลูกค้า โดย มุ่งพัฒนาบริการใหม่ๆภายใต้แนวคิดที่ว่า "Simpler Smarter Faster" คือการทำทุกขั้นตอนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ทำงานให้ฉลาด และทำให้สำเร็จอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และดียิ่งขึ้น พร้อมดำเนินกลยุทธ์ customer centric (การมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง) ที่ให้ความสำคัญกับ "ลูกค้า" มาเป็นอันดับ "หนึ่ง" นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการบุกเบิกการตลาดหลากหลายช่องทาง (Multi Distribution Channels) เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างกัน ด้วยปัจจุบันนี้สังคมไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่มี "เจนเนอเรชั่น (Generation)" ของคนที่หลากหลาย แต่ละวัยก็มีพฤติกรรมการบริโภค และการดำเนินชีวิต การบริหารความเสี่ยงและความต้องการที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นธุรกิจจึงต้องมีการปรับตัวให้รวดเร็ว และเข้าถึงความต้องการในแต่ละบุคคลตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน"
ด้านเจนเนอราลี่ ประกันภัย ผลการดำเนินงานในปี พ.ศ.2559 ของบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม GWP เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันปี พ.ศ. 2558 คิดเป็นร้อยละ 42% โดยประกันรถยนต์ (Motor) โตถึง 131% และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และสุขภาพ (A&H) โตถึง 92% เรามีสินค้า A&H ที่ดี และสร้างความน่าสนใจกับทางโบรกเกอร์ที่เข้าใจฐานลูกค้า และเห็นว่าสินค้าของเราตอบโจทย์ จึงทำให้เราขยายตัวกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นเราเองก็เริ่มรุกในเรื่อง Digital Platform ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยนำเสนอสินค้าผ่านคอนเท้นท์เชิงบวก และใกล้ชิดกับผู้บริโภค และยังมี Inbound telesales ที่มีประสิทธิภาพคอยรองรับ ทำให้ฝั่งประกันภัยของ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมร้อยละ 42% สูงกว่าอัตราเติบโตของธุรกิจประกันภัยที่ภาพรวมโตเพียงร้อยละ 1.3%
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ เรามุ่งขยาย C&C หรือ Corporate and Commercial A&H และประกันภัยรถยนต์ให้เติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนปีที่ผ่านมา โดย C&C มีแผนรุกในการสร้างฐานตลาด SME เสนอผลิตภัณฑ์ตอบสนอง need base เจ้าของธุรกิจ และในส่วนของ Large Corporate เราได้รับการส่งเสริมจากบริษัทแม่ทำให้เราสามารถรองรับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ และเรายังเสริมด้วยการออกสินค้าด้านการคุ้มครองวิชาชีพเฉพาะทาง Professionalism Protection เช่น วิศวกร หรือ สถาปนิก และการคุ้มครองกรรมการบริษัทจากความเสี่ยงด้านการฟ้องร้องเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย