ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้พื้นที่ประกาศภัยแล้งมีน้อยกว่าปีก่อน ๆ ประกอบด้วย 1) แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2558 - 2569 ซึ่งรัฐบาลได้เร่งทำเป็น 4 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา สามารถเพิ่มปริมาณต้นทุน ได้ 2,069.30ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ได้ 1.59 ล้านไร่ ตลอดจนเพิ่มประปาหมู่บ้านได้ 5,911 หมู่บ้าน เหลืออีก 1,579หมู่บ้าน จะแล้วเสร็จในปี 2560 2) การบริหารจัดการน้ำที่บูรณาการ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในช่วงฤดูน้ำหลากระบายน้ำส่วนหนึ่งลงทะเล และเก็บน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ไว้ใช้ในฤดูแล้ง เช่น พื้นที่บางระกำ ผันน้ำเก็บในแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง บึงตะเคร็ง บึงระมาณ และ บึงขี้แร้ง พื้นที่ปากพนัง เก็บน้ำไว้ในลำคลอง จ.นครศรีธรรมราช ไม่ระบายลงทะเลทั้งหมด ส่วนในช่วงฤดูแล้ง วางแผนจัดสรรน้ำตามปริมาณน้ำที่มี และควบคุมการน้ำใช้น้ำให้เป็นไปตามแผน 3)ปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 60 โดยเน้นที่การเติมน้ำต้นทุนในเขื่อนที่น้ำน้อย สร้างความชุ่มชื้นพื้นที่การเกษตร บรรเทาหมอกควัน และสลายลูกเห็บ 4) กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอ ครม. เห็นชอบ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 60 เพื่อดำเนินมาตรการป้องกัน/บรรเทาภัยแล้ง ปี 2559/60 จำนวน 6 มาตรการ 29 โครงการ 5) ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติโครงการพัฒนาตามความต้องการของชุมชน ทำให้มีแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และปลูกพืชอื่น ๆ ที่ใช้น้ำน้อย เช่น กล้วย เป็นต้น รวมทั้งการเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่แล้งซ้ำซากกว่า 6,000 แห่ง และ 6) การบริหารจัดการของจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในการดำเนินการมาตรการป้องกัน/ยับยั้งภัยแล้งอย่างได้ผล
- มี.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม รับรางวัล “องค์กรที่มีผลการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
- มี.ค. ๑๗๙๒ ประมงเมืองคอนโชว์ผลงานฟื้นทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่ จับมือประมงพื้นบ้านร่วมกันทำซั้งเชือก – กระโจมบ้านปลา
- มี.ค. ๒๕๖๗ รัฐบาลมอบเกียรติบัตร-เข็มเกียรติคุณ แก่ชาวประมง NGO เอกชน ภาครัฐ ร่วมปลดล็อคประมงไอยูยู