เฉกเช่นเดียวกับ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ พระจอมเกล้า (King Mongkut's International Demonstration School : KMIDS) ที่ถือได้ว่าเป็นโรงเรียนสาธิตนานาชาติสายวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทยภายใต้สังกัดของ สจล. ซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตนวัตกรรมชั้นยอดเป็นทุนเดิม จุดเด่นของโรงเรียนแห่งนี้อยู่ที่หลักสูตรรูปแบบใหม่ที่นำมาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งเป็นไปตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกา มีการผสมผสานสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยและการบูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ หรือหลักสูตรสะเต็ม (STEM) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ส่งเสริมและเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน
โดยการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มนั้นทางโรงเรียนจะมุ่งเน้นลักษณะที่สำคัญทั้ง 5 ประการคือ 1.การสอนที่เน้นการบูรณาการ 2.ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ 3.เน้นการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในศตวรรษที่ 21 4.ท้าทายความคิดของนักเรียน และ 5. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังมีการเพิ่มกลุ่มวิชาเลือกพิเศษสำหรับนักเรียนในระดับปลาย (เกรด 11 – 12) ที่เรียกว่า Pathway to KMITL โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาพื้นฐานของระดับชั้นปีที่ 1 จากคณะต่างๆ ของสจล. ได้ล่วงหน้าก่อนผู้เรียนในโรงเรียนอื่นๆ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเรียนวิชาเหล่านั้นซ้ำอีกครั้งเมื่อเข้าสู่ในระดับอุดมศึกษา
และล่าสุด นอกเหนือจากวิชาการต่างๆ ที่เข้มข้นแล้ว ทางโรงเรียนยังได้นำหลักสูตร STEM With Robotics ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษที่ได้รับความร่วมมือจากคาร์เนกี เมลลอน โรโบติคส์ อคาเดมี่ (Carnegie Mellon Robotics Academy) สถาบันคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ได้ใช้สอนในโรงเรียนทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 8,000 แห่ง โดยหลักสูตรดังกล่าวได้บูรณาการองค์ความรู้ระหว่างศาสตร์สาขาต่างๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ มาผสมผสานกับหุ่นยนต์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสื่อการสอน โดยแบ่งเป็นระดับการเรียน ตั้งแต่ Robotic Beginner จนถึงระดับ Robotic Advancer โดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่กลไกและเทคนิคที่ซับซ้อน การประกอบและการออกแบบหุ่น การเขียนโปรแกรมสั่งการ จนกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ประดิษฐ์ทำภารกิจต่างๆ ฯลฯ ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นส่วนที่สำคัญที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากรู้ อยากเห็น อยากตั้งคำถาม รู้กลวิธีในการแก้โจทย์-แก้ปัญหา ช่วยเสริมสร้างกระบวนการคิด การจินตนาการ เพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้เรียน นอกจากนี้หลักสูตร STEM With Robotics ยังเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมให้เกิดความเป็นมืออาชีพในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพด้านนวัตกรรม ช่วยผลักดันให้เกิดบุคลากรในตลาดเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถประยุกต์เข้ากับภาคธุรกิจ และเสริมประสิทธิภาพการแข่งขันด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ซึ่งหลักสูตรนี้โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าถือได้ว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้นำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนอีกด้วย
ในส่วนของห้องเรียนเด็กจะได้เรียนในรูปแบบ Active Learning ผ่านห้องเรียนอัจฉริยะ หรือ Super Smart Classroom มีเครื่องมือและระบบต่างๆ จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในระดับโรงเรียนสาธิตนานาชาติ และสื่อการสอนที่มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ครูและนักเรียนจะมีโอกาสได้ร่วมใช้ในการจัดการเรียนการสอน แลกเปลี่ยนทักษะความรู้และความคิดเห็นที่เกิดระหว่างกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนตลอดเวลา นอกจากนี้นักเรียนในทุกระดับชั้นยังสามารถใช้สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ทางการศึกษาและอาจารย์ผู้สอนของ สจล.ได้ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะ ได้ทดลองใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและอุปกรณ์ต่างๆ ได้จริง โดยสื่อการเรียนการสอนที่ล้ำสมัยเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ทั้งในระดับเกรด 7 และเกรด 10 อีกทั้งครูผู้สอนยังมีประสบการณ์สอนในโรงเรียนนานาชาติ จบการศึกษาโดยตรงในสาขาวิชาที่สอนและจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น MIT, Harvard, Imperial College London, UCLA, UC Berkeley ,Columbia University
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าว ว่าระบบการศึกษาของประเทศไทยมีความจำเป็นและถึงเวลาแล้วที่จะต้องผลักดันให้ผู้เรียนหันมาสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น โดยในปัจจุบันมีผู้ที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวอยู่เพียงไม่ถึง 30 % โดยการขาดแคลนสิ่งสำคัญเหล่านี้นับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ฐานความรู้และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น สจล.จึงได้ตระหนักว่าการที่จะผลิตบุคลากรเหล่านี้ป้อนเข้าสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต สถาบันการศึกษาจะต้องเป็นจุดแรกเริ่มในการบ่มเพาะผู้ที่มีคุณภาพและความสามารถให้มีความพร้อมตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งผู้เรียนจะต้องได้รับการปลูกฝังความรู้ในรูปแบบที่ไม่ธรรมดาและนอกเหนือจากระบบการศึกษาปกติ
ทั้งนี้ ทางสถาบันยังมีจุดมุ่งหมายในการสร้างกำลังคนและกำลังสมองในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อก่อให้เกิดนักคิดและผู้สร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะในภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจ การมีสถาบันการศึกษาเฉพาะทางที่ปลูกฝังเด็กให้มีความเป็นอัจฉริยะและมีศักยภาพทางการเรียนรู้วิทยาการสมัยใหม่ตั้งแต่เล็กย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงขณะที่เข้าสู่การศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ทั้งยังจะนำไปสู่การเป็นกำลังสำคัญของชาติในการสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัยต่อไปในภายภาคหน้า
"เรียกได้ว่านวัตกรรมการเรียนดังกล่าวจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับแวดวงการศึกษาในระบบนานาชาติของประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย ที่จะสร้างผู้นำด้านวิทยาการและนวัตกรรมสมัยใหม่ให้ผู้เรียนได้มีศักยภาพและความพร้อมตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อที่ในอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติได้ต่อไป"
สำหรับ ผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า โทรศัพท์ 088-892-6111 หรือเข้าไปที่ Facebook Fanpage : KMIDS