นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่าการตรวจสอบและ หมั่นสังเกตความผิดปกติของอุปกรณ์ประจำรถอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องของรถ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะประชาชนสังเกต อาการผิดปกติของอุปกรณ์ประจำรถ ดังนี้ ยางรถยนต์ บริเวณกลางล้อสึกหรอมากกว่าขอบยาง แสดงว่า เติมลมยางมากเกินไป ดอกยางขอบล้อสึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่า เติมลมยางน้อยเกินไป ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่า มุมแนวตั้งของยางไม่ตรง ดอกยางเป็นบั้งๆ เกิดจากแนวของยางไม่ขนานกับแนวการเคลื่อนตัวของรถ ยางหน้าหรือยางหลังสึกเร็วกว่าปกติ เกิดจากการบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ร้อนจัด แม้เป็นการเดินทางในระยะใกล้ๆ แต่เข็มวัดระดับความร้อนอยู่ที่ตัว H เครื่องยนต์เย็นเกินไป มาตรวัดอุณหภูมิไม่ขึ้นแม้จะขับรถในระยะทางไกล พวงมาลัย บังคับทิศทางได้ยาก โดยเฉพาะขณะเลี้ยวต้องใช้แรงมากกว่าปกติ พวงมาลัยหลวม และมีอาการสั่นขณะขับ หากพวงมาลัยชำรุด จะทำให้อุปกรณ์อื่นๆ มีปัญหาตามไปด้วย อาทิ ยางเฟืองท้าย เกียร์ มีเสียงดัง แม้จะอยู่ในเกียร์ว่างหรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง ขณะเหยียบคลัตช์แล้วเปลี่ยนเกียร์ยาก ทำงานผิดปกติ มีอาการติดขัดขณะเข้าเกียร์ ใช้เวลาในการเปลี่ยนเกียร์นานกว่าปกติ มีน้ำมันหล่อลื่น ไหลออกมาจากห้องเกียร์ และหากเกียร์ทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้รอบเครื่องยนต์ไม่สอดคล้องกับระดับความเร็วของรถ คลัตช์ คลัตช์ลื่น เข้าคลัตช์ไม่สนิท เหยียบแป้นคลัตช์แล้วยังเข้าเกียร์ได้ยาก มีเสียงดังและมีอาการสั่นในขณะขับรถ หากคลัตช์มีปัญหาจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการควบคุมเกียร์ เบรก มีเสียงดังขณะเหยียบเบรก เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือเบรกลื่นจนไม่สามารถหยุดรถได้ แป้นเบรกจมลึกลงไปทั้งที่ถอนเท้าออกจากแป้นเบรกแล้ว ระดับความเร็วคงที่เมื่อเหยียบแป้นเบรก โดยเฉพาะหากเบรกมีอาการผิดปกติหรือชำรุด จะไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย สัญลักษณ์ไฟ มีไฟรูปสัญลักษณ์ ใดค้างบนหน้าปัด แสดงว่า เกิดความผิดปกติกับอุปกรณ์ที่แสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว ไฟสัญลักษณ์ไม่สว่างหรือไม่ดับ อาจเกิดจาก ไดชาร์จทำงานผิดปกติ หรือระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์จะมีสัญลักษณ์ไฟแสดงสถานะปรากฏบนแผงหน้าปัด เมื่อสตาร์ทรถติดแล้วสัญญาณไฟสัญลักษณ์ต่างๆ จะต้องดับลง ทั้งนี้ หากสังเกตพบรถมีอาการผิดปกติ ผู้ขับขี่ควรนำรถ เข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เพื่อตรวจสอบสภาพรถและหาสาเหตุความผิดปกติของอุปกรณ์ประจำรถ และเครื่องยนต์ พร้อมซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ชำรุดให้ทำงานได้ตามปกติ ไม่ควรฝืนนำรถไปใช้งาน เพราะอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
- ๒๘ มี.ค. อนุทิน ชาญวีรกุล มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ อปพร ดีเด่น ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ
- ๒๙ มี.ค. กทม.บูรณาการขับเคลื่อนจัดระเบียบสังคม-เร่งแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน
- ๒๙ มี.ค. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดหลักสูตร TEPCoT รุ่นท 16