สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ๑๔ พฤษภาคมนี้

ศุกร์ ๑๙ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๐๘
มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย เป็นสถานการศึกษาที่ตั้งขึ้นโดยพระบรมราชโองการแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2436 และตามพระราชดำริแห่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมชั้นสูงของพระภิกษุสามเณร ต่อมาในปีพุทธศักราช 2488 สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงโปรดให้จัดการศึกษาในรูปมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เรียกว่า "สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย" และเมื่อพุทธศักราช 2527 รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติรับรองหลักสูตรปริญญาตรีทั้ง 4 คณะ คือ คณะศาสนาและปรัชญา, คณะมนุษยศาสตร์, คณะสังคมศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ หลังจากนั้นในปีพุทธศักราช 2531 สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้บัณฑิตวิทยาลัยจัดการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา และสาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา ต่อมาในปีพุทธศักราช 2540 รัฐบาลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยต่อรัฐสภาและได้รับอนุมัติให้ตราพระราชบัญญัติยกขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยรัฐ มีฐานนะเป็นนิติบุคคลอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม พุทธศักราช 2540 และในปีการศึกษา 2548 สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้บัณฑิตวิทยาลัยจัดการศึกษาในระดับปริญญาเอก สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา ปัจจุบันมหาวิทยาลัย มหามกุฎราชวิทยาลัย ได้ขยายการศึกษาไปในจังหวัดต่างๆ รวม 7 วิทยาเขต 3 วิทยาลัย และได้สนองงานของสงฆ์ในการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาในนานาประเทศ

ในการประทานปริญญาบัตรครั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญาบัณฑิต จำนวน 1,599 รูป/คน ปริญญามหาบัณฑิต จำนวน 528 รูป/คน และปริญญาดุษฎีบัณฑิต จำนวน 10 รูป/คน รวม 2,137 รูป/คนมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้รับความกรุณาอย่างสูงที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีเมตตามาเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2559 แก่ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ และประทานพระโอวาทเพื่อเป็นสิริมงคลว่า

" ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอันมีเกียรติภูมิ มีประวัติความเป็นมาคู่ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ชาติไทย ย่อมมีหน้าที่ที่จะรักษาเกียรติภูมินั้นให้ดำรงอยู่กับตนเสมอ บัณฑิตที่จะก้าวออกไปปฎิบัติภารธุระ ตามหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบนั้น ต้องมี "ขันติธรรม" ประจำใจ ต้องรู้จักอดทนและอดกลั้นไม่ยอมตัว ยอมใจให้วู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติและอารมณ์ที่ตนชอบใจ หรือไม่ชอบใจนั้น

ความอดทนอดกลั้นย่อมก่อให้เกิดความยั้งคิด และเป็นธรรมดาของมนุษย์เราว่าเมื่อยั้งคิดได้แล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะพิจารณาเรื่องที่ทำ คำที่พูด ทบทวนดูใหม่ได้อีกคำรบหนึ่ง ถ้าท่านทั้งหลายมีสติยับยั้ง และทบทวนการกระทำของท่านอยู่เสมอ ย่อมจะช่วยให้ท่านสามารถวินิฉัยที่จะกระทำหรือไม่กระทำการใดๆ ได้ละเอียดถ่องแท้ขึ้น ทำให้การพิจารณาสิ่งต่างๆเป็นไปด้วยความเข้าใจอันกระจ่างขึ้น ความคลาดเคลื่อนจากธรรมหรือบาปอกุศลย่อมจะไม่มีโอกาสกล้ำกลายมาสู่การคิด การพูด และการกระทำของผู้มีความยับยั้งชั่งใจ ถ้าท่านกระทำได้เช่นนั้น ย่อมได้ชื่อเป็นผู้รักษาเกียรติของความเป็นบัณฑิต และรักษาเกียรติของมหาวิทยาลัยได้โดยแท้ "

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4