"ตนเองขอบคุณผู้ใจบุญที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือลูกตนเองให้ลูกมีโอกาสได้เข้าเรียนตามที่ลูกฝันไว้ เรียนจบจะได้ส่งน้องเรียน" เสียงที่สั่นเครือของนางเด่นนภา โอมสัมฤทธิ์ แม่ของน้องน็อต โดยแม่ของน้องน๊อต เล่าว่า ดีใจที่ลูกได้เรียนหนังสือ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าลูกชายได้ไปโพสต์ลงคอมพิวเตอร์ ถึงหาแหล่งหยิบยืมเงินมาเรียน เพราะว่าตอนนั้นได้ไปยืมเงินของญาติมาให้ลูกชายจำนวน 17,000 บาท เพื่อให้ลูกชายลงทะเบียน และจะหาเงินส่วนที่ใช้จ่ายส่วนที่เหลือต่างๆ แต่ด้วยรายได้รับจ้างทั่วไปและเงินจากการหยิบผ้าโหลที่รายได้ไม่มั่นคง บวกกับตอนนั่นมีเงินเพียง 1,400 บาททั้งบ้าน จึงได้บอกลูกชายว่าให้ดรอปเรียนไปก่อน "ลูกชายรู้สึกเสียดายเงิน จึงไม่อยากดรอปเรียน" ตนเองอยากไปยืมเงินให้ได้มากกว่านี้ แต่ไม่ได้มีเครดิตอะไรเลย "บ้านก็ไม่มี ที่นาก็ไม่มี" เงินที่ได้มาอาก็เป็นคนไปยืมมาให้ "ไม่อยากให้รู้ตนเองเครียด อยากให้ลูกเรียนสูงๆ เพื่ออนาคตของลูก เพราะว่าตนเองเรียนน้อย" ลูกชายของตนเองเป็นเด็กดี เป็นคนรักเรียน ขยันเรียน เวลาว่างๆ จะออกไปหารายได้พิเศษ รับจ้างทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรับจ้างขุดมัน เป็นเด็กโต๊ะจีน ลูกชายไม่เคยบ่น ไม่เคยอยากได้อะไร เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยจบ 3.7
น๊อต เล่าว่า "ที่ผมตัดสินใจโพสต์ข้อความดังกล่าว ตอนนั่นไม่รู้จะไปพึ่งใคร เนื่องจากไม่สามารถหยิบยืมเงินได้ในตอนนั้น ซึ่งตนเองต้องเดินทางมาขึ้นทะเบียนนักศึกษาในวันที่ 29 เมษายน 2560 แต่ทั้งบ้านมีเงินเพียง 1,400 บาท" ต้องขอบคุณรุ่นพี่ที่ได้นำเรื่องราวของตนเองไปเรียนปรึกษาอาจารย์และมอบทุนการศึกษาให้กับตนเอง พื้นเพ่ของครอบครัวเป็นคนจังหวัดนครสวรรค์ พ่อเป็นคนนครสวรรค์ แม่เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา พ่อและแม่แต่งงานกัน และได้มาทำงานที่จังหวัดนนทบุรี คุณพ่อทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานบริษัทแม่พิมพ์รถยนต์ คุณแม่เย็บผ้าโหลอยู่ที่บ้าน โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเถ้าแก่ ซึ่งตอนนั่นตนเองเรียนอยู่ที่ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดน้อยใน)ในพระราชูปถัมภ์ฯ หลังจากปี 2554 หลังน้ำท่วม พ่อได้มาเปิดบริษัทเล็กเป็นของตนเอง บริษัทแม่พิมพ์ยานยนต์ โดยมีเพื่อนเป็นผู้ป้อนงานมาให้ แต่เมื่อช่วงปี 2555 และ ปี 2556 ประสบปัญหาไม่มีงาน ทำให้ต้องหยุดกิจการ ตนเองจึงต้องย้ายไปเรียนที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวโรงเรียนมัธยมได้ปิดรับนักเรียนแล้ว ตนเองจึงต้องเข้าเรียนที่สาขาออกแบบ วิทยาลัยอาชีวะนครสวรรค์ กลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านปู่ ซึ่งเป็นบ้านปัจจุบันที่อาศัยอยู่ ซึ่งตอนนั้นพ่อและแม่ย้ายไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ พ่อไปขับรถแดง ส่วนแม่ไปทำงานแม่บ้าน ส่งเงินมาให้ตนเองและน้องเรียนหนังสือ ตนเองมีน้องอีก 2 คน
ปัจจุบันน้องชายคนกลางกำลังจะเข้าชั้นมัธยมชั้นปีที่ 1 และน้องชายคนเล็กกำลังจะขึ้นชั้นอนุบาล 2 ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2559 คุณพ่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับรถ จึงเลิกขับรถ พ่อและแม่ย้ายมาทำงานก่อสร้างที่จังหวัดนครราชสีมา ทำงานได้ 1 เดือน ผู้รับเหมาไม่จ่ายค่าแรง เพื่อนช่วยพ่อและแม่ไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำงานได้ประมาณ 3 เดือน ผู้รับเหมาไม่จ่ายค่าแรง พ่อและแม่จึงตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกับตนเองช่วงสงกานต์ โดยตอนนี้พ่อทำงานที่โรงสี ได้เงินวันละ 200 บาท ส่วนแม่เย็บผ้าโหล นานๆ มีงาน รายได้ตอนนี้จึงไม่มั่นคง เป็นช่วงที่ตนเองสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยตนเองตัดสินใจสอบเข้าตรง ที่สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี "อนาคตอยากทำงานส่งน้องเรียน" อาจึงไปหยิบยืมเงินมาให้แม่เป็นจำนวนเงิน 17,000 บาท เพื่อลงทะเบียนเรียน และยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ตนเองจึงรู้สึกกังวลค่าใช้จ่ายในการเรียน จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความลงไปใน pintip เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งหยิบยืมเงิน "รู้สึกถึงความกังวลและชั่ววูบ" มีรุ่นพี่ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเข้ามาคอมเม้นและได้นำเรื่องราวของตนเองไปปรึกษาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย และได้มอบทุนการศึกษาให้กับตนเองเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท
โดยเงินตอนนี้อยู่ในการดูแลของอาจารย์สิทธิ รักถนอม อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี นอกจากนี้อาจารย์ยังให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษา เป็นธุระดำเนินการให้กับตนเอง ตนเองต้องมาอยู่หอพัก อาจารย์กังวลจะมีภาระในการใช้จ่ายเรื่องหอพักและค่าใช้จ่ายในเรื่องของความเป็นอยู่ อาจารย์ได้นำตนเองไปฝากให้พักที่วัดหว่านบุญ โดยนำไปฝากไว้ที่พระอาจารย์ ดร.พระมหาสมโชค ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดหว่านบุญ วัดห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 2 กิโลเมตร ตนเองปั่นจักรยานมาเรียน
"โดยตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในเรื่องของทุน กรอ. และทุนให้เปล่าสำหรับช่วยเหลือนักศึกษา ซึ่งตอนนี้ได้มาอยู่ที่วัดหว่านบุญ ตื่นตีห้า ช่วยพระอาจารย์ออกบิณฑบาต "พระอาจารย์จะให้เลือกของจากการบิณฑบาตไว้กินสามมื้อไม่ต้องไปเสียเงินซื้อข้าว" ตอนนี้มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดภาคเรียน ตนเองจึงหางานพาร์ทไทม์ โดยได้ทำงานที่กองพัฒนานักศึกษา มทร.ธัญบุรี ปั่นจักรยานจากวัดมาทำงาน ได้วันละ 300 บาท หลังเลิกงานกลับวัดไปช่วยพระอาจารย์ เช็ด กวาด ถู วัด "ผมจะตั้งใจเรียน ขอบคุณรุ่นพี่ที่ได้มอบทุนการศึกษาให้ตนเอง ทำให้ได้เข้ามาเรียน อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เมื่อเรียนจบจะได้มีเงินส่งน้องเรียนต่อไป" น้องน๊อตกล่าวทิ้งท้าย สำหรับผู้ใจบุญต้องการให้ความช่วยเหลือน้องน็อตติดต่อให้ความช่วยเหลือได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี โทร.0-2549-4994