นางสาวสิตาพัชร์ นิโรจน์ธนรัฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อครบวงจร ประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) ในโครงการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระห้องควบคุมและอุปกรณ์ งานกรมท่าอากาศยาน ในท่าอากาศยานจ.กระบี่ มูลค่าสัญญา 150 ล้านบาท และท่าอากาศยานจ.อุดรธานี มูลค่าสัญญา 140 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 210 วัน รวมมูลค่า 2 สัญญากว่า 290 ล้านบาท
โดย LIT ให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ(Project Backup Finance) สินเชื่อเพื่อเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตในประเทศ (DLC) และสินเชื่อเพื่อจัดหาหนังสือค้ำประกัน เป็นวงเงินกว่า 138 ล้านบาท ให้กับลูกค้าเพื่อรองรับงานซื้อขาย ติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระห้องควบคุมและอุปกรณ์ ที่ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งโดยจะให้สินเชื่อเป็นงวดๆตามการชำระเงินของสัญญากับหน่วยงาน พร้อมทั้งรองรับการรับซื้อหนี้ทางการค้า Factoring เป็นวงเงินกว่า 260 ล้านบาท
"โครงการดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบความปลอดภัยของสนามบิน เพื่อให้สนามบินในประเทศทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization – ICAO) ซึ่งเป็นองค์การที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดมาตรฐานและกฎข้อบังคับระหว่างประเทศที่จำเป็นสำหรับความปลอดภัย ความมั่นคง ประสิทธิภาพ และถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการบิน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และสนับสนุนให้ลูกค้าSMEs ที่ทำงานภาคราชการ ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายหลักของ LIT เติบโตขึ้น"นางสาวสิตาพัชร์กล่าว
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) กล่าวอีกว่า การให้สินเชื่อครั้งนี้นอกจากเสริมพอร์ตสินเชื่อให้แข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยผลักดันรายได้รวมในไตรมาส 2/60 เติบโตอย่างมั่นคง ตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้ง ยังทำให้เห็นความสำเร็จอีกขั้นของการให้บริการสินเชื่อ ที่ไม่จำกัดให้บริการเฉพาะแค่กลุ่มอุตสาหกรรมไอที แต่ ลีซ อิท ยังให้บริการสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในโครงการอื่นอีกด้วย อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานสนามบินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล