วธ.เดินหน้าพัฒนาระบบนำชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ-อุทยานประวัติศาสตร์ ใช้ระบบคิวอาร์โค้ด-เออาร์โค้ดนำชมโบราณวัตถุ-ศิลปวัตถุล้ำค่า ชู “สมาร์ท มิวเซียม” ดึงดูดนักท่องเที่ยว-ประชาชนเข้าชมเพิ่มขึ้น

จันทร์ ๒๖ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๒:๒๐
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายและยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการบริการการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัยและน่าสนใจ รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชน ซึ่งปัจจุบัน วธ. โดยกรมศิลปากร (ศก.) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้พัฒนาการจัดแสดงและระบบนำชม โดยมีการติดตั้งระบบคิวอาร์โค้ด และเออาร์โค้ด ซึ่งใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟน ไอแพดและแท็บเล็ตที่จะแสดงข้อมูลและภาพของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมทำให้ได้รับความรู้และข้อมูลอย่างรวดเร็ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมศิลปากร ได้ติดตั้งระบบคิวอาร์โค้ดแล้วในอุทยานประวัติศาสตร์ 9 แห่ง 168 รายการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 41 แห่ง 686 รายการ และโบราณสถาน 16 รายการ นอกจากนี้ ได้นำร่องติดตั้งระบบเออาร์โค้ด ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 3 แห่งได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง อีกทั้งได้จัดทำโครงการ "สมาร์ท มิวเซียม"(Smart museum) ซึ่งเป็นระบบนำชมในรูปแบบของระบบเสมือนจริง (virtual reality) ผ่านสมาร์ท โฟนโดยนำร่องที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร 138 รายการ ทั้งนี้ เด็ก เยาวชนและประชาชนสามารถเข้าชมได้ที่ www.virtualmuseum.finearts.go.thและwww.qrcode.finearts.go.th อย่างไรก็ตาม วธ.ตั้งเป้าหมายเมื่อดำเนินโครงการพัฒนาการจัดแสดงและระบบนำชมแหล่งเรียนรู้ต่างๆแล้ว จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว เด็กและเยาวชนมาเข้าชมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 10.5 ล้านคน

นายวีระ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน วธ. ได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต่างๆในอนาคต โดยจะใช้ระบบนำชมและให้บริการข้อมูลแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรมให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยการพัฒนาไปสู่ระบบเสมือนจริง อาทิ การเพิ่มจำนวนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในโครงการ "สมาร์ท มิวเซียม" การให้บริการชมโบราณสถานด้วยระบบเสมือนจริง เป็นต้น เพื่อให้ความรู้พื้นฐานและช่วยจูงใจให้นักท่องเที่ยว เด็กและเยาวชนเกิดความต้องการเดินทางไปศึกษาเรียนรู้จากสถานที่จริง ซึ่งนอกจากได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว ยังนำไปสู่การสร้างความตระหนัก หวงแหนและร่วมกันอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ไปถึงคนรุ่นหลังอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4