ปักธง “ไปรษณีย์ไทย 4.0” เน้นภายในเข้มแข็ง ภายนอกลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เดินหน้าแผนขยายเครือข่ายรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐ

อังคาร ๒๗ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๓:๑๔
· เตรียมความพร้อมเข้าถึงทุกพื้นที่สนับสนุนโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้านโยบาย "ไปรษณีย์ไทย 4.0" เน้นสร้างความเข้มแข็งขององค์กรจากภายใน เพื่อให้บุคลากรทุกระดับของไปรษณีย์ไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่มี "มาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า" พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาระบบงานและการให้บริการ สู่การทำงานแบบ "มีผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง" อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการปรับปรุงระบบรับฝาก ระบบงานคัดแยก ระบบงานส่งต่อ และระบบงาน นำจ่าย รวมไปถึงปรับปรุงและพัฒนารูปลักษณ์ที่ทำการไปรษณีย์ รถขนส่งไปรษณีย์ ไปรษณีย์อนุญาตเอกชนและร้านไปรษณีย์ไทย นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังเดินหน้าใช้ความเข้มแข็งด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อเป็นสตาร์ทอัพแพลตฟอร์ม (Start Up Platform) สนับสนุนการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อี-คอมเมิร์ซ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐ ที่ไปรษณีย์ไทยมีแผนการขยายจุดบริการให้รองรับการขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจร

ทั้งนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้จัดประชุมคณะกรรมการ ประจำเดือนมิถุนายน 2560 โดยมีพลเอก สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นประธานในการประชุม พร้อมติดตามนโยบายการขับเคลื่อน "ไปรษณีย์ไทย 4.0" และความคืบหน้าการดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยที่จะรองรับนโยบายดังกล่าว

พลเอก สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายการขับเคลื่อน "ไปรษณีย์ไทย 4.0" ว่า เพื่อเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์ "ไทยแลนด์ 4.0" ไปรษณีย์ไทย มีนโยบายการขับเคลื่อน "ไปรษณีย์ไทย 4.0" โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างความเข้มแข็งขององค์กรจากภายใน เพื่อให้บุคลากรทุกระดับของไปรษณีย์ไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่มี "มาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า" ภายใต้หลักการบริหารที่โปร่งใสด้วยธรรมาภิบาล เน้นการควบคุมภายในและการกำกับดูแลกิจการที่ดีในหน่วยงาน รักษามาตรฐานการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานจากการประเมินคุณธรรมและความโปรงใส่ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐ (ปปท.) (Integrity & Transparency Assessment: ITA) ที่ล่าสุดได้คะแนน 94.48 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 4จาก 140 หน่วยงานทั่วประเทศ

พลเอก สาธิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกัน ไปรษณีย์ไทยต้องเดินหน้าพัฒนาขับเคลื่อนระบบงาน และการให้บริการ สู่การทำงานแบบ "มีผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง" สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยต้องปรับปรุงระบบรับฝาก ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ นำระบบ Automation มาช่วยในการปฏิบัติงาน เช่น สายพานลำเลียง เปิดบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี อาทิ ตู้รับฝากและนำจ่ายอัตโนมัติในเขตชุมชน โดยให้พิจารณาความเหมาะสมคุ้มค่าก่อนการดำเนินการ ปรับปรุงระบบงานคัดแยกผ่านการใช้เครื่องคัดแยกอัตโนมัติเพื่อลดการใช้แรงงานคนและสามารถรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นผลภายในปี 2561 จำนวน 29 เครื่อง ปรับปรุงระบบงานนำจ่าย ให้ผู้ใช้สามารถกำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการรับสิ่งของได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังจะทำการปรับปรุงและพัฒนารูปลักษณ์ที่ทำการไปรษณีย์ ไปรษณีย์อนุญาต ร้านไปรษณีย์ไทย ให้มีความทันสมัย รองรับฟังก์ชั่นการทำงานอย่างครอบคลุม ใช้ประโยชน์จากโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นแหล่งศูนย์กลางของชุมชนในการหาข้อมูลความรู้ เป็นแหล่งเรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ไปรษณีย์ไทยจะเติบโตคู่ไปกับชุมชน ซึ่งจะต้องสำเร็จภายในปี 2562

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากนโยบาย "ไปรษณีย์ไทย4.0" นอกจากไปรษณีย์ไทยจะเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการให้บริการแล้ว ไปรษณีย์ยังมีแผนการใช้ความเข้มแข็งด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อเป็น สตาร์ทอัพแพลตฟอร์ม (Start Up Platform) สนับสนุนการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อี-คอมเมิร์ซ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนการรองรับโครงการดิจิทัลชุมชนผ่านการพัฒนา 3บริการหลัก คือ อีมาร์เก็ตเพลส แอนด์แพลตฟอร์ม (eMarketplace & Platform) ช่องทางการตลาดออนไลน์, อีโลจิสติกส์ (eLogistics) ช่องทางการส่งของตอบโจทย์อีคอมเมิร์ซ, และอีเพย์เม้นท์ (ePayment) ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้วางแผนรองรับการขยายตัวของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษของภาคตะวันออก (EEC) โดยไปรษณีย์ไทย ได้ตั้งคณะทำงานสำรวจและศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมเร่งจัดหาพื้นที่เพื่อขยายจุดให้บริการไปรษณีย์ รองรับการเติบโตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันตก ณ จังหวัดตากและกาญจนบุรี 2) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดมุกดาหาร และหนองคาย 3) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ณ จังหวัดสระแก้ว และตราด 4) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (จังหวัดเชียงราย) ซึ่งจากการศึกษา ทำให้พบโอกาสการขยายตัวของไปรษณีย์ไทย ทั้งในด้านเครือข่ายที่ทำการ ศูนย์ไปรษณีย์ และบริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ตลอดจนการให้บริการด้านการขนส่งและขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม จีน และอินเดีย

ไปรษณีย์ไทย เชื่อมั่นว่าการยกระดับมาตรฐานคุณภาพบริการตามนโยบายของประธานกรรมการ พลเอก สาธิต พิธรัตน์ ที่จะผลักดันให้ไปรษณีย์ไทยสามารถตอบสนองนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ด้วยนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ที่รองรับความต้องการของคนไทยในยุคดิจิทัล จะสามารถทำให้ไปรษณีย์ไทยเติบโตด้วยผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมก้าวสู่การเป็นไปรษณีย์ไทย 4.0 มีมาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า เป็นเครือข่ายการขนส่งของคนไทยและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างสำเร็จภายใน 2562 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ THP Contact Center 1545 เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest