พระองค์ภาฯ ทรงเข้าร่วมการอภิปรายระดับสูงของ UN ที่ New Yorkและทรงเน้นย้ำความร่วมมือ เพื่อการป้องปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

อังคาร ๒๗ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๑:๐๐
ในฐานะทูตสันถวไมตรีด้านการส่งเสริมหลักนิติธรรมและระบบงานยุติธรรมทางอาญาสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเข้าร่วมการอภิปรายระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติ ว่าด้วยอาชญากรรมที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ที่สำนักงานสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทย อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยเข้าร่วมงาน

งานดังกล่าวเป็นการประชุมระดับสูง จัดขึ้นเพื่อรำลึกในโอกาสครบรอบ 25 ปีของเหตุการณ์ที่นายจีโอวานนี ฟาลคอนี (Mr. Giovanni Falcone) ผู้พิพากษาชาวอิตาลี ถูกลอบสังหารโดยกลุ่มองค์กรอาชญากรรม โดยมุ่งเน้นประเด็นการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และพิธีสารแนบท้าย เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้หารือเกี่ยวกับแนวโน้มและความท้าทายในการรับมือกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในที่ประชุมใหญ่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้ทรงกล่าวถ้อยแถลง ยกย่องความกล้าหาญและผลงานของผู้พิพากษาจิโอวานี ฟาลคอนี และเจ้าหน้าที่รัฐที่เสียชีวิตจากการลงมือของอาชญากรรมที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และทรงเน้นย้ำว่า วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 จะสำเร็จได้จะต้องมีการจัดการเสริมสร้างหลักนิติธรรม และความมั่นคงขึ้น ซึ่งในประเด็นดังกล่าว การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กรนับเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง

ในการประชุมกิจกรรมคู่ขนาน เรื่อง "ความท้าทายจากองค์กรอาชญากรรมและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงกล่าวว่า การลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศย่อมไม่เพียงพอ ที่สำคัญคือประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ควรมีการร่วมมือกันในลักษณะข้ามพรมแดน ทั้งในการบังคับใช้กฎหมาย และการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในทางอาญาแก่กันและกัน นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองเหยื่อของอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงชุมชนด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ ทรงกล่าวถึง ความเชื่อมโยงและเกื้อกูลกันระหว่างวิสัยทัศน์อาเซียนปีค.ศ. 2025 กับวาระแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งเอกสารทั้งสองฉบับจะช่วยวางกรอบแนวทางในอนาคต และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของหลักนิติธรรม สันติภาพ และเสถียรภาพ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest