พฤษภาคม 2560 2M/Q2 2560
ผลเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ (ล้านบาท) 17,998 36,423
ผลเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ (% yoy) 14 % 22 %
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวว่า สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจสะสมถึงเดือนพฤษภาคม 2560 (ตุลาคม 2559 - พฤษภาคม 2560) เท่ากับ 100,184 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 86 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีงบประมาณเบิกจ่ายได้ 51,463ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม และรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีปฏิทินเบิกจ่ายได้ 48,720 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุน โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค การเคหะแห่งชาติ การประปานครหลวง การท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีผลการเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย สคร. ขอให้เร่งรัดและผลักดันโครงการที่ล่าช้าให้สามารถกลับมาเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ช่วงบางซื่อ - รังสิต ที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าแผนจำนวน 5,356 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าแผนจำนวน 2,273 ล้านบาท รวมถึงบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินปี 2554 - 2565 ที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าแผนจำนวน 4,162 ล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวโดยสรุปว่า งบลงทุนรัฐวิสาหกิจมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่การลงทุนของภาคเอกชนยังเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่เต็มที่ รัฐบาลจึงได้มีการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนของรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เกิดการลงทุน ตามนโยบายรัฐอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายที่กำหนดที่ร้อยละ 95 ของแผนลงทุนทั้งปี สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในภาพรวมผ่านกลไกผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active Partner) และผู้กำกับติดตามโครงการลงทุนในภาพรวม (Project Management Officer) เพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจสามารถเป็นกลไกของภาครัฐในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมั่นคงต่อไป