หนึ่งโอกาส. . . เพื่ออีกหนึ่งชีวิตใหม่ของผู้ประกันตนทุพพลภาพ

อังคาร ๑๑ กรกฎาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๕๒
นายสมศักดิ์ อภิวันทนกุล ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่มอบสุข ผู้ประกันตนทุพพลภาพ ประจำปี 2560 ณ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานประจำภาคตะวันออก จ.ระยอง เพื่อติดตามคุณภาพชีวิต "นายไพบูลย์ พันธุ์พิริยะ" ผู้ประกันตนทุพพลภาพเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ และเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับโอกาส เข้ารับการฟื้นฟู จนพบกับคำว่า "ชีวิตใหม่" ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ

นายสมศักดิ์ อภิวันทนกุล ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า นายไพบูลย์ พันธุ์พิริยะ เป็นผู้ประกันตนทุพพลภาพ ที่ได้รับโอกาสจากการลงพื้นที่โครงการมอบสุขฯ ประจำปี 2559 ซึ่งคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคม นำนักกายภาพและเจ้าหน้าที่ศูนย์ฟื้นฟู ฯ เข้าเยี่ยม ประเมินอาการ ในขณะนั้น นายไพบูลย์ มีความพิการขา ต้องอาศัยรถเข็น และกล้ามเนื้อเริ่มมีอาการเกร็ง สภาพจิตใจไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เนื่องจากเดิมทีสามารถประกอบอาชีพได้ แต่ด้วยภาวะร่างกายที่ทุพพลภาพ ส่งผลให้ไม่ต้องการเป็นภาระของครอบครัวจึงย้ายออกมาอาศัยอยู่กับวัดซึ่งให้การดูแลผู้ป่วยไร้บ้าน แต่จากการเข้าตรวจเยี่ยม ประเมินสภาพอาการแล้ว สำนักงานประกันสังคมเล็งเห็นว่า อยู่ในระดับที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และอาจจะมีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้นหากเข้ารับการฟื้นฟูที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน จึงได้ประสานขอรับตัวนายไฟบูลย์เข้ารับการฟื้นฟูเมื่อปี 2559 และพบว่า หลังจากเข้ารับการฟื้นฟู ผู้ประกันตนมีพัฒนาการทางร่างกายที่ดีขึ้นมาก ตลอดจนมีหน้าตา จิตใจแจ่มใส สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งยัง ได้รับการฝึกอาชีพและมีความมุ่งหวังว่าจะสามารถเข้ารับการฝึกฝนทางด้านการกีฬาเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทยในการเข้าแข่งขันกีฬาคนพิการได้

นอกจากการดูแลภายในศูนย์ฟื้นฟูแล้ว ฯ นายไพบูลย์ยังคงได้รับสิทธิประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ได้รับเงินชดเชยการขาดรายได้เดือนละ 4,297.50 บาท ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคมให้การดูแลผู้ประกันตนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม

ด้านนายไพบูลย์ พันธุ์พิริยะ ผู้ประกันตนทุพพลภาพ เปิดเผยว่า วันนี้ ทำให้เข้าใจคำว่า "ชีวิตใหม่" อย่างถ่องแท้ เพราะชีวิตวันนี้หลังจากเข้ารับการฟื้นฟู กับชีวิตของการเป็นผู้พิการที่อาศัยอยู่ในวัดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก่อนเข้ารับการฟื้นฟูรู้สึกลังเล เพราะอดีตเคยต้องนอนรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ประกันสังคมติดต่อให้เข้าศูนย์ฟื้นฟูฯ มีความกังวลว่าจะเป็นเหมือนโรงพยาบาล แต่เมื่อได้รับการพัฒนาทางกายอย่างแท้จริงแล้ว ก็พบว่ามีความแตกต่างจากโรงพยาบาลเพราะนอกจากจะได้ฝึกสมรรถภาพทางร่างกายแล้ว ยังมีการดูแลเยียวยาทางด้านจิตใจและฝึกอาชีพร่วมด้วย ปัจจุบัน สามารถช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้นกว่า 60% อาทิ การพยุงตัวเองออกจากรถเข็น การเข้าห้องน้ำ การใช้รถเข็นยกล้อข้ามสิ่งกีดขวางด้วยตนเอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างพัฒนาการของตนเอง และที่สำคัญคือ ยังมีโอกาสได้เข้ารับการคัดเลือกจากสถานประกอบการที่จะเข้ามาคัดเลือกผู้ทุพพลภาพเข้าทำงาน ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของชีวิต ที่เชื่อว่าหากไม่มีสิทธิประกันสังคมคงไม่สามารถได้รับโอกาสเช่นนี้อย่างแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4