นายเรย์ หลี่ กล่าวว่า โครงการ "One Belt, One Road" และนโยบาย "Supply-Side Reform" ของรัฐบาลจีนนั้น ได้ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาการค้าข้ามพรมแดนทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศจีนเอง โดยยอดสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในทุกๆปี จากแรงหนุนของยอดขายนมผงที่ผลิตในสิงคโปร์ กาแฟจากเวียดนาม และผลิตภัณฑ์ยางที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับวิธีการเจาะตลาดจีนที่ดีที่สุดในระยะนำร่องทางธุรกิจนี้ นายเรย์ หลี่ แนะนำให้ผู้ที่ทำการค้าข้ามพรมแดนผ่านระบบอีคอมเมิร์ซใช้วิธีการส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าหรือผู้บริโภคโดยตรง (B2C) โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่มีการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้าปริมาณน้อยและแบ่งการจัดส่งเป็นหลายรอบ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสะดวกต่อการจัดการวงจรสินค้าคงคลัง
SF Express เป็นบริษัทส่งพัสดุด่วนสัญชาติจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความรวดเร็วในการส่งพัสดุและคุณภาพบริการ ด้วยเครือข่ายครอบคลุมมณฑลและเมืองรวมกัน 34 แห่งทั่วประเทศจีน SF Express ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องบินขนส่งสินค้าทั้งหมด 51 ลำ กำลังสร้างศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ทางอากาศ ที่จะกลายเป็นเจ้าแรกในเอเชีย และรายที่ 4 ของโลกในเร็วๆนี้ และสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางบริษัทได้จัดตั้งจุดให้บริการในสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และไทย พร้อมทีมบริการในแต่ละประเทศ เพื่อทำหน้าที่ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนระหว่างประเทศถึงหน้าประตูบ้าน
งานเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน, กรมการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, กรมการพาณิชย์มณฑลยูนนาน และศูนย์ปฏิบัติการ Asia-Pacific Model E-Port Network Operational Center โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน และส่งเสริมการพัฒนาของกลุ่มประเทศสมาชิก GMS ในด้านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ผ่านทางการอภิปรายและการสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเจาะลึก
สื่อมวลชนติดต่อ: [email protected]