นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 - 19 กรกฎาคม 2560 ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 20 จังหวัด 51 อำเภอ 190 ตำบล 704 หมู่บ้านได้แก่ นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท จันทบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พระนครศรีอยุธยา ชุมพร ยโสธร กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา อ่างทอง ตราด ระนอง และลำปาง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 4 จังหวัด 9 อำเภอ 76 ตำบล 337 หมู่บ้าน ได้แก่ น่าน เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาน้อย อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอภูเพียง อำเภอเวียงสา อำเภอสันติสุข อำเภอแม่จริม และอำเภอบ่อเกลือ รวม 22 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 67 ครัวเรือน ยโสธร เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอป่าติ้ว รวม 4 ตำบลประชาชนได้รับผลกระทบ 961 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,500 ไร่ พระนครศรีอยุธยา ผลกระทบจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางปะอิน อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางไทร รวม 69 ตำบล 312 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 9,402 ครัวเรือน 27,166 คนและตราด เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอเขาสมิง รวม 1 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 30 ครัวเรือน 75 คนสถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตร ทั้งนี้ปภ.ได้บูรณาการทุกภาคส่วนดูแลด้านการดำรงชีพของผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการจัดหาอาหารและน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอ การดูแลสุขภาพอนามัยและรักษาพยาบาล รวมถึงการแจกจ่ายถุงยังชีพให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน อีกทั้งจัดรถบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง การซ่อมแซมถนนและสิ่งสาธารณูปโภคให้สามารถใช้งานได้ตามปกติอย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
- ๒๔ เม.ย. จับตาเทรนด์ที่อยู่อาศัยวัยเก๋า บ้านแบบไหนตอบโจทย์ชาว Silver Gen
- ๒๔ เม.ย. กรมโยธาฯ Kick Off โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ บริเวณตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
- ๒๔ เม.ย. อนุทิน ชาญวีรกุล มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ อปพร ดีเด่น ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ