ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าวได้ส่งทีมผู้ตรวจประเมิน ประกอบด้วย ข้าราชการกรมการข้าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 1 - 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพื่อตรวจแปลงที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องในการตรวจรับรองแปลง เนื่องจากเล็งเห็นว่าเกษตรกรที่จังหวัดนครพนมมีความพร้อมรับการตรวจประเมินทุกราย รวมทั้งหมด 1,132 ราย 47 กลุ่ม พื้นที่ 13,896.14 ไร่ โดยมีหลักเกณฑ์การตรวจประเมิน 5 ข้อกำหนด ได้แก่ พื้นที่ปลูก แหล่งน้ำ การจัดการดินและปุ๋ย การจัดการคุณภาพในกระบวนการผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว เอกสารสิทธิ์ถือครองที่ดิน การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล ทั้งนี้ ได้มีการทบทวนผลการตรวจประเมิน พบว่า มีเกษตรกรจังหวัดนครพนมผ่านการตรวจพร้อมที่จะเป็นแปลงนาอินทรีย์ รวม 931 ราย 43 กลุ่ม ซึ่งกรมการข้าวจะได้นำผลการตรวจดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนชาวนา 2,000 บาท/ไร่ ไม่เกินรายละ 15 ไร่ โดยคาดว่าจะได้รับเงินภายในเดือนกันยายน 2560 นี้ ส่วนกลุ่มที่ไม่ผ่าน 4 กลุ่ม 201 ราย จะเร่งดำเนินการพร้อมตรวจอีกครั้งในปีหน้า
สำหรับความพร้อมของเกษตรกรอินทรีย์จังหวัดนครพนมยังพบว่า เกษตรกรมีความตั้งใจ และมีพื้นที่ที่มีความพร้อมจะเป็นนาอินทรีย์ เนื่องจากที่นาเป็นของเกษตรกรเอง มีเอกสารสิทธิ์ ส่วนใหญ่ใช้น้ำฝนและน้ำบ่อกักเก็บในไร่นา ใช้ปัจจัยการผลิตและผลิตปุ๋ยใช้เองในท้องถิ่นที่เป็นอินทรีย์ รวมทั้งมีการจดบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกนาอินทรีย์ นอกจากนี้ เกษตรกรยังมีความมั่นใจว่าจะทำข้าวอินทรีย์ได้แน่นอน เพราะเป็นวิถีชีวิตที่ทำอินทรีย์อยู่แล้ว และมีภาครัฐให้การสนับสนุน รวมไปถึงโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วย
"อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้กรมการข้าวเดินหน้าเต็มที่ในการเร่งตรวจรับรองพร้อมกันทั่วประเทศให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้ได้ผลการตรวจจ่ายเงินพร้อมกันภายในกันยายน และเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวนาอินทรีย์ทั่วประเทศตั้งใจทำข้าวอินทรีย์จนประสบผลสำเร็จได้" นางสาวชุติมา กล่าว