"ปกติคนมาเที่ยวพระนครศรีอยุธยาจะคิดถึงแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำก็เป็นของเด็ดอีกอย่างเช่นกัน" รังสรรค์เล่าถึงที่มาของการทำร้านอาหาร ซึ่งมีแรงผลักดันจากเหตุการณ์ที่เขาถูกขโมยรถมอเตอร์ไซค์ก่อนเปิดร้านหนึ่งคืน ทำให้เขาตั้งใจว่า จะต้องเปิดร้านอาหารให้คนแถวนี้มีงานทำ เพื่อที่จะได้ไม่มาเป็นขโมย ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เพียงแค่คิดถึงการทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว ทำให้เขาวางแผนในการพัฒนาและบริหารร้านอาหาร โดนจะนำทุนสนับสนุนที่ได้รับจากการแข่งขันไปเรียนต่อในด้านการแปรรูปอาหารเพื่อต่อยอดสร้างมาตรฐานของอาหารและขยายแฟรนไชส์ของร้านก๋วยเตี๋ยวต่อไป จนสามารถพิชิตใจกรรมการทำให้ได้รับตำแหน่งแชมป์โครงการ UFS ปรุงชีวิตพิชิตฝันไปครอง และในครั้งนี้เขาจะมาแบ่งปันเคล็ดลับในการบริหารร้านอาหารที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจร้านอาหารได้จริง
เคล็ดลับที่ 1 สร้างฝันให้ยิ่งใหญ่:
ไม่ใช่แค่มีความฝัน แต่ต้องสร้างให้เกิดขึ้นได้จริง รังสรรค์ใช้เวลา 1 ปีในการเก็บรวบรวมเงินทุนเพื่อทำร้านอาหารอย่างที่เขาต้องการ เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้จากยูทูบ แล้วฝึกหัดปรับปรุงเมนูอาหารให้ถูกปากลูกค้า เมื่อความฝันเป็นรูปเป็นร่างในขั้นตอนแรก เขาก็เริ่มวางแผนที่จะเติบโตโดยมีเป้าหมายคือเปิดแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยว ขยายสาขาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลาง โดยใช้ประสบการณ์การทำงานเป็นนักขายในพื้นที่ภาคกลางที่เขารู้จักตลาดดีอยู่แล้วมาช่วยเสริม
เคล็ดลับที่ 2 สร้างมาตรฐาน:
จากการเข้าร่วมเวิร์คช็อปกับเชฟเคน-ชวลิต ยิ้มประเสริฐ จากยูนิลีเวอร์ ฟู้ดโซลูชั่นส์ ทำให้เรียนรู้ถึงการสร้างมาตรฐานให้แก่ร้านอาหาร ทั้งในเรื่องของการสร้างแม่ซอสสำหรับร้านอาหาร ที่จะช่วยให้กำหนดมาตรฐานของรสชาติอาหารไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการทำอาหารแต่ละครั้ง
ยังมีเรื่องของมาตรฐานความสะอาดที่ได้รับการย้ำจากเชฟเสมอ โดยเฉพาะการจัดเก็บอาหารในตู้เย็นเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของอาหาร ว่าอาหารแบบไหนควรจะอยู่ชั้นไหน เช่น อาหารที่พร้อมรับประทาน อย่างผัก ให้อยู่ชั้นบน อาหารทะลอยู่ล่างลงมา ตามมาด้วยเนื้อสัตว์ที่เป็นชิ้น เนื้อบด และสัตว์ปีกวางอยู่ชั้นล่างสุด นอกจากนั้นยังมีมาตรฐานในการบริหารจัดการต้นทุน ถ้าขายดีแล้วไม่มีการจัดการต้นทุนให้ดี ก็จะทำให้เจ๊งได้ ดังนั้น เราต้องมาคิดบริหารจัดการต้นทุนตั้งแต่ เรื่องของ "ค่าแรงพนักงาน" "ค่าใช้จ่ายอื่นๆ" อย่างพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น และ "ต้นทุนอาหาร" อาทิ วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร เครื่องปรุงรส ไปจนถึงเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับร้านอาหารทุกร้าน
เคล็ดลับที่ 3 สร้างสรรค์สิ่งใหม่:
รังสรรค์มีความตั้งใจในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ให้แก่ร้านสม่ำเสมอ เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้า แต่ละเมนูเขาได้ ทำการศึกษาอย่างละเอียด เช่น เมนูต้มยำไข่เต่าเจ้าพระยา ที่นำมาใช้เป็นเมนูเด็ดสำหรับการแข่งขันโครงการ UFS ปรุงชีวิตพิชิตฝัน ก็นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่น ได้แก่ "เห็ดตับเต่า" ซึ่งเป็นเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ในพื้นที่ต.สามเรือน อ.บางปะอิน มาเป็นวัตถุดิบหลัก โดยศึกษาถึงประโยชน์ของเห็ดว่าช่วยในส่วนของระบบการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดหลัง ปวดข้อ และเส้นเอ็นได้ ซึ่งรังสรรค์ได้เข้าไปปรึกษากับดร.นวพร สังวร จากคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ผู้ทำวิจัยเรื่องเห็ดตับเต่าเพื่อนำมาความรู้มาใช้ต่อยอดในการพัฒนาเมนูของตัวเองด้วย
เคล็ดลับที่ 4 สร้างความยั่งยืนในชุมชน:
ไม่ใช่แค่การสร้างอาชีพให้กับคนละแวกร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งอยู่ในพื้นที่สนามกีฬากลางจังหวัดให้มีรายได้จากร้าน แต่รังสรรค์ยังมีเป้าหมายมุ่งสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเห็ดตับเต่า และคนหากุ้งแม่น้ำ ล่าสุดทางรังสรรค์บอกว่าทางร้านของเขาได้เพิ่มปริมาณการสั่งวัตถุดิบทั้ง 2 ชนิดจากสัปดาห์ละครั้งเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งนอกจากจะได้ช่วยเกษตรและชุมชนตามที่ตั้งใจแล้วยังได้สร้างความภูมิใจแก่ตัวเขาที่ได้ทำตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ด้วยการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขาด้วย
นับได้ว่าเป็น 4 เคล็ดลับที่ผู้ประกอบการร้านอาหารไซส์ SMEs สามารถนำมาปรับใช้กับร้านของตัวเองได้ไม่ยาก และนอกจากโครงการ UFS ปรุงชีวิตพิชิตฝันแล้ว ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดโซลูชั่นส์ยังจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารสม่ำเสมอ ซึ่งหากใครที่อยากจะได้เคล็ดลับดีๆ ในการทำธุรกิจอาหาร สามารถติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ทาง Facebook มือโปรความอร่อย หรือ LINE @ufsthailand