นางสาวพงษ์ลดา พะเนียงเวทย์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟรชเก็ต ได้พูดถึงการดำเนินธุรกิจว่า เฟรชเก็ตได้เปิดตลาดให้มีการซื้อขายจริงไปเมื่อต้นปี คือวันที่ 11 มกราคม ซึ่งได้รับการตอบรับ จากทั้งทางฝั่งของร้านอาหารและซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต เกษตรกรจำนวนมาก แต่เฟรชเก็ตในช่วงที่ผ่านมา รองรับได้เพียงร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่ทองหล่อ เอกมัย สีลม และสาทร เนื่องจากต้องการทดสอบตลาด และปรับผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการที่ตรงใจผู้ใช้มากที่สุด หรือเป็นการทำ Product – Market Fit นั่นเอง
"เรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รูปแบบของเว็บไซต์ เพื่อให้ตรงตามที่ผู้ใช้จริง feedback ให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับการขยายตลาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งนอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์และเว็บไซต์แล้ว เรายังพบว่า ความต้องการของผู้ใช้ทางฝั่งร้านอาหาร นอกเหนือจากการจัดการการสั่งซื้อวัตถุดิบเข้าร้านแล้ว ยังเป็นเรื่องของความคาดหวังในคุณภาพสินค้า และบริการของซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ สภาพความสดของสินค้า และการส่งของตรงเวลา เพราะเวลาถือเป็นต้นทุนของร้านอาหาร เฟรชเก็ตจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง SCG Nichirei Logistics เพื่อนำระบบ การขนส่งเข้ามาช่วยซัพพลายเออร์ในการจัดการขนส่งให้ได้ตามความคาดหวังของร้านอาหารมากขึ้น ในส่วนของพื้นที่บริการตอนนี้ เฟรชเก็ตเปิดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ แล้ว โดยที่ในการขนส่งนั้นจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ซัพพลายเออร์ดำเนินการจัดส่งเอง และส่วนที่ SCG Logistics ดำเนินการขนส่งให้"
นางสาวอรนี เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผู้บริหาร SCG Nichirei Logistics กล่าวว่า "SCG Nichirei Logistics เอง ได้เข้ามาร่วมมือ เป็นพันธมิตรกับเฟรชเก็ต ในด้านการให้บริการด้านการขนส่ง เพราะเราเองมองว่า ธุรกิจ Start up กำลังเติบโตในอัตราสูง และ การให้บริการกับร้านอาหาร เป็นกิจรรม Downstream operation สอดคล้องกับการขยายธุรกิจของบริษัทในปีนี้ด้วย มาตรฐานการให้บริการของเราเน้นเรื่องคุณภาพ การบริการ Quality และ การจัดส่งตรงเวลา Delivery on time เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้สินค้าจากซัพพลายเออร์ของเฟรชเก็ตนั้นคงคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของความสดไว้ได้ เพราะการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดการเดินทาง และก็คิดว่า เป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพไทย รวมไปถึง ช่วยให้ผู้บริโภคที่เป็นร้านอาหารได้รับบริการด้านการขนส่ง ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล"
นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเฟรชเก็ตในวันนี้ เพราะการผูกพันธมิตรกับ SCG Logistics นั้นจะช่วยให้เฟรชเก็ตขยายตลาดจากตอนนี้ที่มีร้านอาหารเข้ามาซื้อขายจริงในช่วงทดสอบตลาดที่ 50 ร้าน เป็น 200 ร้านอาหารภายในไตรมาสที่ 3 นี้ได้ไม่ยาก
เกี่ยวกับเฟรชเก็ต
เป้าหมายหลักของเรา คือการช่วยซัพพลายเออร์และร้านอาหารได้พบปะและตกลงซื้อขายได้ง่ายขึ้น ผ่านระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ใช้ง่าย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและต้นทุน รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับทั้งสองฝ่าย เบื้องหลังของ Freshket คือคนคิดนอกกรอบที่อยากทำให้ชีวิต ในโลกธุรกิจอาหารที่ช่างยุ่งเหยิงนี้ง่ายลง และเราก็ออกไปทำให้มันง่ายลงจริงๆและจะยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อไปเพื่อให้ Freshket ยังคงสดใหม่น่าใช้อยู่เสมอ