ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัด พร้อมประสานจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หย่อมความกดอากาศต่ำพายุโซนร้อนตาลัสและพายุโซนร้อนเซินกา ตั้งแต่วันที่5 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 44 จังหวัด 302 อำเภอ 1,724 ตำบล 14,105 หมู่บ้าน 43 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 609,425 ครัวเรือน 1,898,322 คน ผู้เสียชีวิต 40 ราย ดำเนินการช่วยเหลือแล้ว 37 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 ราย บ้านเรือนเสียหาย 3,282 หลัง แยกเป็น เสียหายบางส่วน 3,267 หลัง เสียหายทั้งหลัง 15 หลังดำเนินการช่วยเหลือแล้ว 2,005 หลัง อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,277 หลัง ถนน 2,401 สาย คอสะพาน 111 แห่ง สะพาน 207แห่ง ฝายและทำนบ 8,753 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 2,340,000 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 2,180,000 ไร่ พืชไร่ 150,000 ไร่พืชสวนและอื่นๆ 6,000 ไร่ บ่อปลา 14,203.41 ไร่ ปศุสัตว์ 48,214 ตัว ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 39 จังหวัดยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี และภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา รวม 23 อำเภอ 119 ตำบล 536 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,993 ครัวเรือน 9,684 คน จุดอพยพ 9 จุด 881 ครัวเรือน 3,155 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว นอกจากนี้จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน "มาวาร์" เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลซานเหว่ยประเทศจีน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง โดยพายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงขอให้ประชาชนติดตามพยาการณ์อากาศอย่างต่อเนื่อง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป