รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่
https://www.multivu.com/players/uk/8173054-international-icons-hajj-islam/
มัลคอล์ม เอ็กซ์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกัน ได้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์เมื่อปี 2507 โดยเขาได้จดบันทึกไว้ว่า พิธิฮัจญ์แสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในแบบที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ โดยข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่ในหนังสืออัตชีวประวัติที่ตีพิมพ์ในปี 2508 ความว่า
"ผู้แสวงบุญหลายแสนหลายล้านคนจากทั่วโลกมีทุกสีผิว ตั้งแต่ผิวขาวตาฟ้าผมบลอนด์ไปจนถึงชาวแอฟริกันผิวดำ แต่เราทุกคนมาร่วมพิธีเดียวกัน แสดงถึงภราดรภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่เจอมาในอเมริกา ผมไม่คิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ระหว่างคนขาวกับคนผิวสีอื่น อเมริกาต้องพยายามทำความเข้าใจศาสนาอิสลาม ในฐานะศาสนาหนึ่งที่ช่วยขจัดปัญหาเชื้อชาติในสังคม คุณอาจตกใจที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากผม แต่สิ่งที่ผมได้เห็นและได้สัมผัสในพิธีฮัจญ์ทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่"
ในปี 2555 อาเมียร์ ข่าน นักแสดงบอลลีวู้ดชื่อดัง พร้อมด้วยมารดา ได้เดินทางจากมุมไบเพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ โดยเขาได้อธิบายความรู้สึกไว้ว่า "นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผม มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด ผมได้เห็นกะอ์บะฮ์เป็นครั้งแรก และได้เห็นคนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก ต่างภาษา ต่างสีผิว ต่างความเชื่อ ต่างภูมิหลัง ต่างสังคม มารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว มันเป็นภาพที่น่าทึ่งมาก และแน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ที่ต้องสัมผัสให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต"
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นหลักสำคัญของศาสนาอิสลาม ซึ่งสิ่งนี้ก็สะท้อนผ่านพิธีฮัจญ์ที่รวมเหล่านักแสวงบุญให้เป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในค่านิยมสากลที่ศาสนาอิสลามยึดถือเช่นเดียวกับผู้คนทั่วโลก
เอช จี เวลส์ นักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับค่านิยมสากลอย่างความเห็นอกเห็นใจและความอดทนอดกลั้น ซึ่งชาวมุสลิมก็ยึดถือเช่นเดียวกัน โดยกล่าวว่า "คำสอนของศาสนาอิสลามได้สร้างธรรมเนียมอันดีงาม นั่นคือพฤติกรรมและการกระทำที่มีเมตตาและยุติธรรม ทั้งยังส่งเสริมให้ทุกคนมีคุณธรรมและความอดทนอดกลั้น เหล่านี้เป็นคำสอนสูงสุดและในขณะเดียวกันก็ปฏิบัติได้จริง ศาสนาอิสลามจึงสมบูรณ์ด้วยความอ่อนโยน อ่อนน้อม และภราดรภาพ"
ในการปราศรัยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2523 อดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของอเมริกากับชาติมุสลิมไว้ว่า
"ทั้งในความรู้สึกส่วนตัวและในฐานะประธานาธิบดี ผมรู้สึกประทับใจในค่านิยมทางจริยธรรมและมนุษยธรรมที่ชาวอเมริกันมีร่วมกับชาวมุสลิม ที่สำคัญที่สุดคือ เราต่างมีศรัทธาอันแรงกล้าในพระผู้เป็นเจ้า เราต่างได้รับพระบัญชาให้มีความศรัทธา มีความเห็นอกเห็นใจ และมีความยุติธรรม เราต่างเคารพบูชาในสิ่งเดียวกัน แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ตึงเครียดในโลกยุคใหม่ เราก็ยังคงให้ความสำคัญกับครอบครัวและบ้านเหนือสิ่งอื่นใด และเรามีความเชื่อร่วมกันว่า การต้อนรับขับสู้คือคุณสมบัติที่ดี และเจ้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือบุคคล ควรมีความเอื้อเฟื้อและให้เกียรติแขกผู้มาเยือน"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.saudiwelcomestheworld.org
(รูปภาพ: http://mma.prnewswire.com/media/551741/MOCI_International_Icons.jpg )
ที่มา: กระทรวงวัฒนธรรมและสารสนเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (MOCI)