ปภ. จัดสัมมนาผู้นำ อปพร. เสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า หลายครั้งที่เกิดสาธารณภัย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ถือเป็นกำลังสำคัญที่สนับสนุนภาครัฐในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ประกอบกับรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายและเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดย อปพร. ถือเป็นต้นแบบเครือข่ายป้องกันภัยอาสาสมัครจิตอาสาภาคประชาชนที่อุทิศตนปฏิบัติงานเพื่อสังคมและประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะกว่า 38 ปี รวมถึงพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 กำหนดให้มี อปพร.ปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งให้ผู้อำนวยการศูนย์ อปพร. จัดให้มีคณะกรรมการประสานงานศูนย์ อปพร.ในแต่ละระดับ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกลาง จึงได้ดำเนินโครงการสัมมนาผู้นำอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ประจำปี พ.ศ 2560 ในช่วงระหว่างวันที่ 18 - 19 กันยายน 2560 ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ ประกอบด้วย ประธานและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานศูนย์ อปพร. จังหวัด 76 จังหวัด กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา สำหรับกิจกรรมในการสัมมนาจะมีบรรยายหัวข้อต่างๆ ดังนี้ อาสาสมัครกับผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลงยุค 4.0 ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่าด้วยค่าใช้จ่ายของอาสาสมัครในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2560 และการขับเคลื่อนงานกิจการ อปพร. บทบาทของฝ่ายทหารกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงกิจกรรมชวนผู้นำ อปพร. คุยในมุมมองของศูนย์ อปพร.กลาง และกิจกรรมแสดงพลังผู้นำ อปพร. ในการถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ทั้งนี้ การจัดโครงการสัมมนาฯ ดังกล่าว เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และเสนอข้อคิดเห็นในการพัฒนา อปพร.ให้พร้อมรองรับการจัดการสาธารณภัยอย่างครอบคลุมทุกมิติรวมถึงเชื่อมโยงนโยบายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปสู่การปฏิบัติของ อปพร. ในระดับพื้นที่ อีกทั้งเสริมสร้างกลไกการปฏิบัติงานอาสาสมัครให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ อปพร. เป็นหน่วยสนับสนุนการจัดการภัยพิบัติของภาครัฐที่มีความเข้มแข็งอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้วาระ "ประเทศไทยปลอดภัย (SafetyThailand)"