รัฐมนตรีช่วยฯ “ชุติมา” เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร จับคู่ผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก

ศุกร์ ๑๕ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๗:๔๙
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร ณ จังหวัดนครราชราชสีมา ว่า ปัจจุบันความต้องการของประชากรของโลกและของไทยหันมาให้ความสนใจในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่มีความปลอดภัย ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ที่ผู้บริโภคพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับการบริโภคข้าวที่จะตอบสนองต่อการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเป้าหมายอยู่ในประเทศที่มีเศรษฐกิจดี ประชาชนมีความต้องการซื้อสูง เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรได้รับจะสูงกว่าราคาข้าวเปลือกทั่วไป จึงเป็นโอกาสและช่องทางอันดีของเกษตรกรไทยที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตข้าวอินทรีย์ และข้าวที่มีการปฏิบัติตามระบบการเกษตรที่ดี (GAP) ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อการแข่งขัน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเร่งผลักดันการเชื่อมโยงตลาด โดยจับคู่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์และข้าว GAP กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ และจัดให้มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ซื้อขายผลผลิตข้าวจากโครงการฯ โดยจัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการของจังหวัดนครราชสีมา (เพื่อดำเนินการเชื่อมโยงตลาดรองรับผลผลิตข้าวอินทรีย์ของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์) โดยนำกลุ่มเกษตรกรมาพบปะกับผู้ประกอบการที่แจ้งว่ามีความต้องการซื้อข้าวในโครงการ โดยจะให้ราคาที่สูงขึ้นตามคุณภาพ และจะเพิ่มให้ตันละ 300 – 500 บาท แล้วแต่ชนิดข้าว

นางสาวชุติมา กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการค้าข้าวที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ สามารถขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย ร้อยละ 3 ต่อปี โดยมีระยะเวลาได้รับการชดเชยดอกเบี้ย คือ 1) ผู้ประกอบการค้าข้าวอินทรีย์ ได้รับการชดเชยดอกเบี้ย ในระยะเวลา 3 ปี และ 2) ผู้ประกอบการค้าข้าว GAP ได้รับการชดเชยดอกเบี้ย ในระยะเวลา 1 ปี

"โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร จะสามารถแก้ปัญหาราคาข้าวได้อย่างยั่งยืน สามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมุ่งสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ซึ่งจะทำให้การเกษตรของไทยได้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านการเชื่อมโยงตลาดอีกด้วย" นางสาวชุติมา กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๘ เม.ย. Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๘ เม.ย. Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๘ เม.ย. โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๘ เม.ย. 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๘ เม.ย. TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๘ เม.ย. SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๘ เม.ย. โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๘ เม.ย. หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๘ เม.ย. คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital