นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรเสด็จสวรรคตในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ซึ่งยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับพสกนิกรชาวไทยโดยทั่วกัน ตลอดเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์การระหว่างประเทศได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานให้พสกนิกรมาตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีแห่งวันสวรรคตในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560 และเนื่องในโอกาสใกล้ถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้จัดทำโครงการสำรวจความรู้สึกของประชาชนทั่วไปในหัวข้อ "ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในความทรงจำ" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5 ถึง 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.94 เพศชายร้อยละ 49.06 อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถสรุปผลได้ดังนี้ เมื่อกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างนึกถึงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ พ่อแห่งแผ่นดินคิดเป็นร้อยละ 87.02 เศรษฐกิจพอเพียงคิดเป็นร้อยละ 85.31 โครงการพระราชดำริคิดเป็นร้อยละ 83.02 พระราชกรณียกิจคิดเป็นร้อยละ 81.06 และพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงงานหนักคิดเป็นร้อยละ 77.88
ส่วนภาพพระราชอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่อยู่ในความทรงจำของกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด 5 อันดับ คือ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรคิดเป็นร้อยละ 89.06 ทรงสะพายกล้องถ่ายรูป/ฉายพระรูปต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 87.35 เสด็จพระราชดำเนินบนพื้นที่ทุรกันดารคิดเป็นร้อยละ 85.39 ทรงถือแผนที่ทรงงานคิดเป็นร้อยละ 83.18 และทรงโบกพระหัตถ์/แย้มพระสรวลทักทายประชาชนคิดเป็นร้อยละ 80.65
สำหรับพระราชดำรัส/พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรที่กลุ่มตัวอย่างน้อมนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินชีวิตมากที่สุด 5 เรื่อง คือ การดำรงชีวิตอย่างพอเพียงคิดเป็นร้อยละ 86.2 การรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบคิดเป็นร้อยละ 84.41 การช่วยเหลือผู้อื่นคิดเป็นร้อยละ 82.2 ความซื่อสัตย์สุจริตคิดเป็นร้อยละ 79.59 และการยึดถือคุณธรรมคิดเป็นร้อยละ 76.73
เมื่อได้รับทราบ/ได้ยินข่าวต่างๆ เกี่ยวกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่รู้สึกคิดถึงพระองค์ท่านเป็นอันดับแรกซึ่งคิดเป็นร้อยละ 31.67 รองลงมาร้อยละ 19.27 ร้อยละ 14.86 และร้อยละ 11.18 รู้สึกใจหาย รู้สึกไม่อยากให้ถึงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิง และรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอันดับแรกตามลำดับ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 7.67 ระบุว่ารู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็ว ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.12 รู้สึกทำใจได้ว่าวันพระราชพิธีต้องมาถึง นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างระบุว่าตนเองรู้สึกทำใจไม่ได้เป็นดับแรกซึ่งคิดเป็นร้อยละ 4.98 กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 2.37 ระบุว่าตนเองรู้สึกตกใจเป็นอันดับแรก และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 1.88 มีความรู้สึกอื่นๆ
ส่วนสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างตั้งใจจะทำมากที่สุด 5 อันดับเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรได้แก่ น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องต่างๆ มาปฏิบัติคิดเป็นร้อยละ 88.24 น้อมนำแนวพระราชดำริในเรื่องต่างๆ มาปรับใช้คิดเป็นร้อยละ 86.12 เก็บธนบัตร/เหรียญที่ระลึกคิดเป็นร้อยละ 83.92 เก็บหนังสือที่บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านคิดเป็นร้อยละ 81.31 และถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านให้คนรุ่นใหม่รับทราบคิดเป็นร้อยละ 78.53