นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรางแรงงาน เปิดเผยว่า การให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการดำเนินงานเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ในมิติการเพิ่มโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม กพร.จึงมอบหมายหน่วยงานในสังกัด เร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร็วและต่อเนื่อง จึงลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานในเขตภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งในปี 2561 สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกระบี่ มีเป้าหมายดำเนินการเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ จำนวน 260 คน ประกอบด้วย การฝึกอาชีพให้กับคนทำงานนอกระบบ คัดเลือกจากผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และรวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ทหารก่อนปลดประจำการ และกลุ่มผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดด้วย
การฝึกอาชีพเสริมครั้งนี้ดำเนินการ จำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาการทำขนมไทย และสาขาการทำน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ สาขาละ 20 คน รวม 40 คน ระยะเวลาฝึกอบรม 18 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2560 ณ ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ ประชาชนประกอบอาชีพการทำสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา เป็นอาชีพที่ทำรายได้เป็นรายปี จึงต้องการที่หารายได้จากการประกอบอาชีพเสริมช่วงเวลาว่าง เพื่อให้มีรายได้ในการใช้จ่ายในแต่ละวัน การฝึกอาชีพใน 2 สาขานี้ จะช่วยให้ชาวบ้านประกอบอาชีพและมีรายได้เพื่อใช้จ่ายในครอบครัวเพิ่มขึ้น และสามารถนำความรู้ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้านได้ด้วย
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากการฝึกอาชีพให้กับคนทำงานที่อยู่นอกระบบการจ้างงานแล้ว กพร.ยังให้การส่งเสริมและสนับสนุน เพื่อให้ชุมชนสามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นั่นคือโครงการสานสร้างศูนย์ช่างประจำชุมชน เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อเป็นศูนย์กลางให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการเกษตร โดย กพร.จะพัฒนาช่างประจำชุมชน ให้มีทักษะที่หลากหลาย เป็น ""ช่างชุมชนจิปาถะ"" เพื่อให้บริการแก่คนในชุมชนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น มีทักษะด้านซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านอยู่แล้ว ก็จะเสริมทักษะด้านช่างไฟฟ้า ด้านก่อสร้าง ช่างปูกระเบื้อง ช่างปะปา เป็นต้น และในปี 2561 สนพ.กระบี่มีเป้าหมายจัดตั้งถึง 10 แห่ง เพื่อส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพากันเองได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ด้วย
ศูนย์ช่างประจำชุมชน เทิดไท้องค์ราชัน ซึ่งมีอยู่แล้วทั่วประเทศจำนวน 85 แห่ง กพร.จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ช่างที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำ ณ ศูนย์ช่างฯ เป็นผู้ที่มีความรู้มากกว่า 1 สาขา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ช่วยให้มีรายได้มากขึ้น ที่สำคัญมีรายได้หมุนเวียนในชุมชน อีกทั้งมอบหมายให้สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศติดตามและให้การสนับสนุนศูนย์ช่างฯ จนกว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืน เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการน้อมลำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชการที่ 9 อธิบดีกพร.กล่าว