พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นายแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย และคณะ ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ชั้น ๖ อาคารกระทรวงแรงงาน (วันนี้ 14 ธ.ค.60) โดยกล่าวว่า ได้หารือกับท่านทูตลาวเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว กลุ่มบัตร สีชมพูและกลุ่มใบจับคู่ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินงานของฝ่ายไทยและฝ่ายลาว ซึ่งจากการตรวจสอบการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวที่ผ่านมา พบว่า แรงงานสัญชาติลาวที่จดทะเบียนบัตร สีชมพู มีจำนวนทั้งสิ้น 71,521 ราย ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว 17,024 ราย คงเหลือ 54,497 ราย และกลุ่มใบจับคู่ (MOU) มีจำนวนทั้งสิ้น 87,792 ราย จึงได้เสนอเป็นหลักการให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวกลุ่มใบจับคู่ จากเดิมที่ต้องเดินทางกลับไปยังประเทศต้นทาง เพื่อดำเนินการกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยในรูปแบบ MOU นั้น สามารถดำเนินการเบ็ดเสร็จที่ประเทศไทย ไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว ให้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาและกัมพูชา เพื่อให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ท่านทูตลาวได้รับหลักการดังกล่าวไว้พิจารณา โดยขอให้ทางรัฐบาลไทยทำหนังสือและจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อนำเรียนทางการสปป.ลาวต่อไป
"รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวให้หมดไป และพร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่ แต่อยู่ที่เงื่อนไขและนโยบายของประเทศต้นทางด้วย อย่างไรก็ตามกระทรวงแรงงานจะให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวให้ได้รับบริการที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน" พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด