ณัฐธีรา บุญศรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสินค้า บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และกรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซน เผยว่า "แผนกบิวตี้ แกลเลอรีของห้างเซ็นทรัล และเซน ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะอัพเดทและนำเสนอความรู้เรื่องความงาม ทั้งเครื่องสำอางและน้ำหอม ตลอดจนมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าเสมอ อย่างครั้งนี้แคมเปญ Beauty Galerie Presents All About Beauty Sense of Scent (บิวตี้ แกลเลอรี พรีเซนต์ ออล อะเบ้าท์ บิวตี้ เซ้นส์ ออฟ เซ้นต์) เราได้นำเสนอเรื่องของกลิ่นหอมอมตะผ่านนิทรรศการ Scents of Rarity (เซ้นต์ ออฟ แรร์ริตี้) โดยรวบรวมน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลก ที่ปัจจุบันหาไม่ได้ง่ายๆ มาจัดแสดงให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์สัมผัสกลิ่นหอมหายาก และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์น้ำหอมชนิดต่างๆ ทั้งยังจัดกิจกรรม Making Scents (เมคกิ้ง เซ้นต์) แนะนำการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับราศี และเช็คพื้นฐานดวงชะตากับนักพยากรณ์ชื่อดัง รวมถึงเวิร์กช็อปทำน้ำหอมกลิ่นพิเศษ ในแบบฉบับเฉพาะตัว ที่มีเพียงกลิ่นเดียวในโลก เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์พิเศษและประทับใจกับกิจกรรมที่เราตั้งใจจัดขึ้นค่ะ"
ด้าน อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้รักการสะสมน้ำหอมวินเทจ (Vintage) มากว่า 10 ปี เล่าว่า "ส่วนตัวเริ่มจากการชอบผสมกลิ่นน้ำหอมให้เป็นสไตล์ของตัวเอง ก่อนจะมารู้จักกับน้ำหอมวินเทจ รู้สึกว่าเป็นศาสตร์ที่น่าหลงใหลและลึกลับ เพราะศาสตร์อื่นสามารถสัมผัสได้ด้วยการมอง หรือการจับต้อง แต่เสน่ห์ของน้ำหอมอยู่ที่การดม ที่ต้องแยกแยะให้ออกว่ามีส่วนผสมของกลิ่นอะไรบ้าง โดยที่ชอบที่สุดเป็นกลิ่นฟลอรัล เพอร์ฟูม (Floral Perfume) หรือสารสกัดจากดอกไม้ สำหรับในงานนิทรรศการ "เซ้นต์ ออฟ แรร์ริตี้" จะได้พบกับน้ำหอมอมตะ ที่ไม่ได้หาดมได้ง่ายๆ ในปัจจุบัน อาจจะมีเก็บสะสมไว้ตามพิพิธภัณฑ์บ้าง แต่ก็ต้องเสียค่าดมแพงมาก และบางครั้งก็จะได้ดมกลิ่นที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบ แต่ถ้ามางานนี้ ก็จะได้ดมกลิ่นน้ำหอมจริงๆ ที่มีเรื่องราวผ่านกาลเวลา จากขวดน้ำหอมเลย อาทิ
CHANEL NO.5 (1921) (ชาแนล นัมเบอร์ 5 ปี 1921) น้ำหอมกลิ่นแรกจากชาแนล ซึ่งถือเป็นผู้นำเทรนด์ในยุคแรกๆ ที่แฟชั่นดีไซเนอร์หันมาทำน้ำหอมแบรนด์ของตัวเอง โดยถือเป็นต้นแบบของน้ำหอมประเภท Aldehydic Floral (อัลเดลิก ฟลอรัล) ซึ่งเป็นนิยามของความเป็นเฟมินินมาจนถึงยุคปัจจุบัน
MISS DIOR (1947) (มิส ดิออร์ ปี 1947) น้ำหอมต้นแบบในยุค 50 กลิ่นแรกจากแบรนด์ Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์) ที่เป็นนิยามของเอลิแกนท์ (Elegant)ของผู้หญิงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
OPIUM (1977) (โอเปียม ปี 1977) น้ำหอมไอคอนยุค 80 จาก Yves Saint Laurent (อีฟส์ แซงต์ โลรองต์) ซึ่งมีคนกล่าวไว้ว่า แสดงพลังอำนาจของผู้หญิง ที่ผู้ชายต้องยอมสยบ
SHALIMAR (1925) (ชาลิมาร์ ปี 1925) ต้นกำเนิดของ Oriental Perfume (โอเรียนทัล เพอร์ฟูม) กลิ่นที่แสดงถึงความรักอันเป็นอมตะ ซึ่งถูกปรุงแต่งโดย Jacques Guerlain (ฌาค เกอร์แลง) ซึ่งถือเป็นน้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแบรนด์ Guerlain (เกอร์แลง) และยังได้รับการยกย่องให้เป็นน้ำหอมประเภทโอเรียนทัลที่ดีที่สุดของโลก
JOY (1930) (จอย ปี 1930) เกิดจากแรงบันดาลใจของ Jean Patou (ฌอง ปาตู) ที่คิดจะปรุงแต่งน้ำหอมซึ่งแสดงถึงความสุขและความหวัง ด้วยส่วนผสมของดอกมะลิและดอกกุหลาบ ที่ดีที่สุด และมีราคาสูงมาก แต่กลิ่นนี้กลับได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นกลิ่นที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงและความสุข สมกับชื่อ JOY จนได้การโหวตจากคนในวงการน้ำหอมให้เป็นกลิ่นน้ำหอมแห่งศตวรรษนี้
L'ORIGAN (1905) (ลอริแกน ปี 1905) ต้นกำเนิดกลิ่นแป้ง หรือ Powdery กลิ่นแรกของโลก จากเดิมที่คนเชื่อว่าแป้งไม่มีกลิ่น แต่ในปี 1905 Francois Coty (ฟรองซัวส์ โคตี้) นักปรุงน้ำหอม และเจ้าของแบรนด์ Coty ได้ริเริ่มนำน้ำหอม กลิ่นหนึ่งผสมเข้าไปในแป้งผัดหน้า และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนเมื่อเวลาผ่านไปคนต่างรับรู้และเข้าใจไปว่านี่คือ กลิ่นของแป้ง ซึ่งน้ำหอมที่ใช้ผสมในตอนนี้ คือ กลิ่น L'ORIGAN นั่นเอง
SHOCKING (1937) (ช็อกกิ้ง ปี 1937) เป็นน้ำหอมที่ดังที่สุดของ Elsa Schiaparelli (เอลซา เซียปาเรลลี) แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้คิดค้นสี Shocking Pink (ช็อกกิ้ง พิ้งค์) สร้างสรรค์ขึ้น และด้วยสีชมพูสดของน้ำหอม SHOCKING จึงแสดงถึงความเปรี้ยวซ่าของสาวๆ ในยุคนั้น
NARCISSE NOIR (1911) (นาร์ซิส นัวร์ ปี 1911) น้ำหอมต้นแบบของสาวๆ ลุคร้ายในหนังฟิล์มนัวร์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแบรนด์ CARON (การง) แบรนด์น้ำหอมเก่าแก่ชื่อดังของฝรั่งเศส ที่ปรุงกลิ่นโดย Ernest Daltroff (เฮอร์เนสต์ ดัลทรอฟฟ์) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ถือเป็นน้ำหอมประเภท Oriental Floral (โอเรียนทัล ฟลอรัล) ที่มีความหอมหวานเย้ายวน จากยางไม้และวานิลลา ผสมกลิ่นดอกไม้ที่โดดเด่นอย่าง Orange Flower (ออเร้นจ์ ฟลาวเวอร์) ซึ่งนับเป็นรุ่นที่หายากที่สุด ที่จะนำมาโชว์ในงานนี้ โดยมีความพิเศษอยู่ที่ตัวเลขที่แมตช์กันระหว่างฝาขวดกับขวด เพราะในสมัยก่อนการเจียระไนขวดและจุกปิดขวดด้วยมือ ต้องทำเฉพาะขวด ถ้านำไปใส่ขวดอื่นจะไม่พอดี ขวดที่นำมาโชว์นี้จึงนับว่าเป็นขวดที่สมบูรณ์ตัวเลขขวดและฝาขวดตรงกัน
นอกจากนี้ ยังเอาใจเหล่าบิวตี้ เลิฟเวอร์ ให้เติมเต็มความงามให้สมบูรณ์แบบด้วยเครื่องสำอางจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ที่ยกทัพกันมาจัดโปรโมชั่นสุดว้าว เคาน์เตอร์ปกติ ลดสูงสุด 15%, รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 5,000 บาท เมื่อช็อปครบตามเงื่อนไข, ช็อปด้วยบัตรเซ็นทรัลเดอะวันเครดิตคาร์ด ลดเพิ่มสูงสุด 32.5% เมื่อใช้คะแนน 2 เท่าของยอดช็อป, ลดเพิ่มสูงสุด 12.5 % เมื่อใช้คะแนนจากบัตรเดอะวันคาร์ด และลด หรือ รับเพิ่ม สูงสุด 15% จากบัตรเครดิตชั้นนำ
พร้อมเตรียมกิจกรรมเอาใจคนรักความหอมอีกมากมาย อาทิ Making Scents (เมคกิ้ง เซ้นต์) แนะเคล็ด(ไม่)ลับการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับราศี พร้อมเช็กพื้นฐานดวงชะตากับนักพยากรณ์ชื่อดัง นำโดย อาจารย์ชัญญา ชัญญาภัค รวมถึง เวิร์กช็อปทำน้ำหอมกลิ่นพิเศษ ในแบบฉบับเฉพาะตัว ที่มีเพียงกลิ่นเดียวในโลก
พิสูจน์ความหอมอบอวลของน้ำหอมสุดคลาสสิก ได้ใน นิทรรศการ Scents of Rarity (เซ้นต์ ออฟ แรร์ริตี้) ระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคม 2560 เวลา 10.00 น. - 22.00 น. ณ แผนกบิวตี้ แกลเลอรี ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลชิดลม พร้อมร่วมเติมเต็มความสวยงามและความหอม กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ และหลากหลายกิจกรรม จากแคมเปญ "Beauty Galerie Presents All About Beauty Sense of Scent" (บิวตี้ แกเลอรี พรีเซนต์ ออล อะเบ้าท์ บิวตี้ เซ้นส์ ออฟ เซ้นต์) ได้ระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคม 2560 ที่ห้างเซ็นทรัล สาขา ที่เข้าร่วมรายการ และเซน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/centralbeautyclub