ก.แรงงาน ปั้น นักพัฒน์พันธุ์ใหม่ ปี 2 ที่ปรึกษา SME 4.0

พุธ ๒๐ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๒๗
ก.แรงงาน เตรียมปั้นนักพัฒน์ฝีมือแรงงานพันธุ์ใหม่ อีก 280 คน รับหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านเพิ่มผลิตภาพแรงงาน กำหนดเปิดคลินิคผลิตภาพแรงงาน สู่ SME 4.0 21 ธันวาคมนี้

นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานของปัจจัยการผลิตด้านแรงงาน กพร. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจขับเคลื่อนผู้ประกอบกิจการและแรงงานให้มีความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2561 ได้ดำเนินคลินิคผลิตภาพแรงงาน สู่ SME 4.0 มีสถานประกอบกิจการเข้าร่วมโครงการ 185 แห่ง ประกอบด้วย สถานประกอบการ SME ที่มีพนักงาน 51-200 คน วิสาหกิจชุมชน/OTOP ที่มีพนักงานต่ำกว่า 50 คน กิจกรรมที่ดำเนินการในปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ ที่ดำเนินการ อาทิ จัดกิจกรรมด้านคลินิกผลิตภาพแรงงานสัญจร นำทีมพบเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน เพื่อชี้แจงถึงความสำคัญของการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและวิธีดำเนินงาน แล้วนำคณะผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ รวมถึงดำเนินการฝึกอบรมให้กับพนักงานของสถานประกอบการ ไม่น้อยกว่า 10,000 คน ซึ่งสอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในด้านการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน และการเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานไทย

นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า ระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2560 เป็นการบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแก่สถานประกอบกิจการในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการปูพื้นฐานความรู้ด้านการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายใน-ภายนอก แบบภาพกว้างและเจาะลึก เพื่อนำข้อมูลจากการวิเคราะห์ไปประเมินหาวิธีการแก้ไข เป็นต้น โดยในวันนี้(19 ธันวาคม 2560) นายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการอบรมพร้อมให้กำลังใจแก่ผู้เข้าอบรม ขอให้ตั้งใจเรียนรู้จากวิทยากร เพื่อนำความรู้ดังกล่าวไปให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบกิจการต่อไป ซึ่งหลังจากการอบรมครั้งนี้แล้ว กพร.จะคัดเลือกบุคลากรเข้าอบรมแบบเข้มข้นอีกครั้งเพื่อให้ปี 61 มี "นักพัฒน์พันธุ์ใหม่" เพิ่มอีกอย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน

สำหรับในปีนี้ กพร.ได้จัดทำคู่มือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นแนวทางในการให้ปฏิบัติงานด้านการให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบกิจการ SMEs กลุ่ม OTOP และวิสาหกิจชุมชน เมื่อเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเหลือสถานประกอบกิจการขนาดเล็กและขาดกลาง ให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น และมีความสามารถในการลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรที่สูงขึ้นด้วย และที่สำคัญคือสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมั่นคง ที่ผ่านมา สามารถช่วยให้สถานประกอบกิจการ ลดการสูญเสียกระบวนการผลิตและเพิ่มผลิตภาพแรงงาน คิดเป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท อธิบดีกพร.กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4