แอบลุ้น พ.ร.บ.การอุดมศึกษาทันคลอดรัฐบาลนี้ เพื่อบริหารงานคล่องตัวแนะกระจายอำนาจสู่สภามหาวิทยาลัย แยกกลุ่ม ม.ให้ชัดเจน

พฤหัส ๑๑ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๔:๕๑
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า จากความพยายามในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา โดยจะแยกอุดมศึกษาออกจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี และอยากให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีความเข้าใจและมีเป้าหมายที่ต้องการแยกอุดมศึกษาออกจาก ศธ. หากเป็นรัฐบาลหน้าอาจจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ที่ตนเห็นด้วยให้มีการแยกอุดมศึกษาออกจาก ศธ. เพราะมองว่าบริทบการศึกษาของแต่ระดับมีเป้าหมายต่อการพัฒนานักเรียน นักศึกษาที่ต่างกัน การที่อยู่ภายใต้ ศธ. ซึ่งมีโครงสร้างที่ใหญ่อาจทำให้การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาทำได้ไม่ตรงเป้าหมายนัก อย่างไรก็ตามเมื่อแยกออกเป็นกระทรวงอุดมศึกษาแล้ว การขับเคลื่อนจะต้องเปลี่ยนทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับอาชีพ โดยปัจจุบันอาชีพขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลก นวัตกรรม และเทคโนโลยี ซึ่งมีความรวดเร็วมาก จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายของอุดมศึกษาให้มีความชัดเจน แบ่งเป็นกลุ่มมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยที่เน้นงานวิจัย มหาวิทยาลัยที่เน้นพื้นฐานเทคโนโลยี เป็นต้น

อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อยากให้มีการกระจายอำนาจสู่สภามหาวิทยาลัย โดยกระทรวงจะต้องส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้มีความคล่องตัวต่อการจัดการเรียนการสอน ตามทิศทางของแต่ละกลุ่มมหาวิทยาลัย เช่น กลุ่มราชมงคล กลุ่มราชภัฎ รวมถึงควรให้มหาวิทยาลัยที่มีเงินรายได้เป็นของตัวเองสามารถตั้งกรอบอัตรากำลังพนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการจัดการบุคลากร ซึ่งปัจจุบันมีอุดมศึกษาส่วนหนึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ออกนอกระบบ การกระจายอำนาจให้สภามหาวิทยาลัยดูแลเรื่องเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ดี

"เมื่อแยกกระทรวงแล้วจะต้องมีเป้าหมายมุ่งไปสู่การจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย โดยใน พ.ร.บ.จะต้องมีการกำหนดทิศทางอุดมศึกษาไว้ให้ชัดเจน ขณะที่สภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกกฎระเบียบแต่ละเรื่องเพื่อเป็นกรอบของ มหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น มีความคล่องตัวต่อการแข่งขันและปรับตัวต่อทิศทางของมหาวิทยาลัยในอนาคต เพราะเชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรต่างๆ จะเริ่มต้น เช่น ไม่มีสาขา หรือคณะ เหลือแต่หลักสูตร คณะอาจมีการเปลี่ยนเป็นสถาบัน เช่น สถาบันสุขภาพ สถาบันพลังงาน ดังนั้นบริบทที่จะเปลี่ยนควรให้สภามหาวิทยาลัยกำหนดทิศทาง ซึ่ง พ.ร.บ.ที่จะออกมานั้นจะต้องเอื้อต่อบริบทของแต่ละมหาวิทยาลัย เพราะมีความแตกต่างและการขับเคลื่อนในอนาคตจะมีความต่างกันมากขึ้นโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง" รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าว.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๓ เซ็นทารา เปิดตัว โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โรงแรมไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ใจกลางเมือง พร้อมอิสระแห่งการเดินทาง
๑๐:๐๙ THE GAIN ยกขบวนวิทยากรระดับประเทศ มุ่งสู่งานสัมมนา การเทรดและลงทุนปี 2024
๑๐:๒๗ W เผย IFA หนุนเพิ่มทุน 2.5 พันล้านหุ้นขาย PP รับแผนเข้าถือหุ้นฟรุตต้าฯ 51% พร้อมปลดล็อก CBC
๑๐:๓๐ ผถห.TFG โหวตหนุนแจก TFG-W4 ฟรี! อัตรา 10 : 1 ราคาใช้สิทธิ 3.80 บ.พร้อมจ่ายปันผลเงินสด 0.01 บ./หุ้น ปักธงปี 67 รายได้โต 10%
๑๐:๑๙ ASIA เตรียมขายหุ้นกู้มีหลักประกัน มูลค่า 300 ลบ. อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7 - 7.20% มูลค่าหลักประกันเฉียด 1,600 ลบ. คาดเปิดจองซื้อวันที่ 27 - 29 พ.ค.
๑๐:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศรวมอัตลักษณ์องค์กรในระดับโลก ด้วยการรีแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์
๑๐:๕๔ ยูนิโคล่ร่วมกับมารีเมกโกะ เปิดตัว UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 เติมเต็มความสดใสให้ซัมเมอร์ ในธีม Joyful Summer
๑๐:๔๒ TERA ฟอร์มเจ๋ง! เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 122.86% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตธุรกิจคึกคัก ปักหมุดผลงาน 3 ปีเติบโตเฉลี่ยเกิน
๑๐:๐๙ โบรกฯ แสกน GFC ส่งซิก Q1/67 พุ่ง
๑๐:๐๐ ผถห. WINMED ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.0295 บ./หุ้น-รับเงิน 21 พ.ค.นี้ รุกตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก เพิ่มรายได้ประจำผถห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 20%