โดยเมื่อถามถึง ความรู้ประชาชนต่อ ประชาธิปไตย เป็นคำถามปลายเปิดให้คนตอบตอบเอง พบว่า ประชาชนจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.6 ระบุ ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่ตอบ รองลงมาคือร้อยละ 19.5 ระบุ ประชาธิปไตยคือ ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ร้อยละ 18.8 ระบุประชาธิปไตย คือ อิสระในการคิดการพูด ร้อยละ 13.5 ระบุประชาธิปไตยคือ ฟังเสียงคนข้างมาก ร้อยละ 6.9 ระบุประชาธิปไตยคือ ประชาชนรักสามัคคีกัน มีส่วนร่วม ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.3 ระบุประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง และร้อยละ 1.4 ระบุประชาธิปไตยเป็นเรื่องผลประโยชน์ ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงความชอบต่อประชาธิปไตยแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือเป็นแบบใด พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 41.3 ชอบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ร้อยละ 58.7 ต้องการประชาธิปไตยแบบสงบสุข แบบพอเพียง ไม่มีคอร์รัปชั่น และบางส่วนระบุแบบไหนไม่รู้แต่ขอให้ดีขึ้นกว่านี้ เป็นต้น และเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า หญิงร้อยละ 42.2 ชอบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ตอนนี้ ในขณะที่ชายมีอยู่ร้อยละ 40.3 แต่ในกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตยแบบสงบสุข แบบพอเพียง ไม่มีคอร์รัปชั่น หรือแบบไหนไม่รู้แต่ขอให้ดีขึ้น นั้น ชายมีอยู่ร้อยละ 59.7 ส่วนหญิงร้อยละ 57.8
ที่น่าสนใจคือ คนการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีร้อยละ 45.9 ชอบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่คนการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปมีอยู่ร้อยละ 36.0 ในขณะที่ คนการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีร้อยละ 54.1 เทียบกับ คนการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปร้อยละ 64.0 ต้องการเปลี่ยนแปลงให้เป็นประชาธิปไตยแบบสงบสุข แบบพอเพียง ไม่มีคอร์รัปชั่น หรือแบบไหนไม่รู้แต่ขอให้ดีขึ้น เป็นต้น