“AMA” วางเป้ารายได้ปี 61 โต 30% ทำนิวไฮต่อ ลุยขยายกองเรือ-รถขนส่ง ศึกษาแผนซื้อกิจการ

จันทร์ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๐:๕๖
"อาม่า มารีน" ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โตที่ระดับ 30% ทำนิวไฮต่อเนื่อง เตรียมขยายกองเรืออีก 2 ลำ ดันน้ำหนักบรรทุกรวมแตะ110,000 เดทเวทตัน รถขนส่งเพิ่มเป็น 180 คัน รองรับตลาดปาล์มน้ำมันโต พร้อมศึกษาแผนซื้อกิจการ

นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จะเติบโตอยู่ที่ระดับ 30% จากการเดินหน้าขยายกองเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี และรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อรองรับตลาดปาล์มน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะความต้องการการส่งออกปาล์มน้ำมันจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 85% ของผู้ส่งออกปาล์มน้ำมันทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 4 ล้านตัน ภายในปี 2561 ซึ่งบริษัทฯมีแผนที่จะขยายกองเรือเพิ่มขึ้นอีก 2 ลำ โดยแบ่งเป็นครึ่งปีแรกจำนวน 1 ลำ และครึ่งปีหลังจำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกลำละ 13,000 เดทเวทตัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่งผลให้กองเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทฯจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 10 ลำเป็น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกรวม เพิ่มขึ้นจาก 82,981 เดทเวทตัน เป็น 108,981 เดทเวทตัน ในขณะที่บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันอีก30 คัน แบ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 จำนวน 10 ลำ และไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จำนวน 20 ลำ ส่งผลให้กองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 180 คัน ปริมาณขนส่งรวมเพิ่มเป็น 8.1 ล้านลิตร

ในขณะที่ภายในปี 2561 บริษัทฯมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการ โดยในปัจจุบันบริษัทฯอยู่ในระหว่างศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2561 ซึ่งบริษัทฯมุ่งเน้นการเข้าซื้อกิจการที่มีความเหมาะสมกับการลงทุน และเป็นกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว โดยบริษัทฯจะใช้แหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการจากเงินสด รวมถึงการกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯยังมีความสามารถในการกู้ยืมได้เพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E อยู่ที่ 0.88 เท่า

"ในปีนี้การเติบโตของเราจะยังคงเน้นการเติบโตจากการขยายกองเรือ และรถเพื่อรองรับความต้องการส่งออกปาล์มน้ำมันจากประเทศผู้ส่งออกหลักของโลกที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการภายในประเทศ ส่วนการเข้าซื้อกิจการก็เป็นอีกแนวทางที่เราศึกษาอยู่ ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะเห็นความชัดเจนได้ ซึ่งการซื้อกิจการจะช่วยให้เราเติบโตได้รวดเร็ว และก้าวกระโดดยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ และผลกำไรในระยะยาวอีกด้วย" นายพิศาลกล่าว

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯประจำปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 253.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.96ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 71.99% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.19 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 1,500.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 536.20 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 55.60% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี2559 ที่มีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 964.45 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการทำกำไรสุทธิ และรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4