ในขณะที่นักกีฬาไทยส่วนใหญ่ในรายการนี้ ล้วนมีพื้นฐานมาจากการเป็นมวยไทยอาชีพ แต่หนุ่มวัย 26 ปีชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชผู้นี้ คืออดีตนักมวยปล้ำระดับตำนานของประเทศไทย
กฤษดา เป็นแชมป์ประเทศไทย 13 สมัย พร้อมสถิติที่น่าภาคภูมิใจของเจ้าตัวที่ชนะ 180 ครั้ง และแพ้แค่ 20 ครั้งเท่านั้น
"ผมมาจากอาชีพนักมวยปล้ำ ไม่เหมือนนักกีฬาไทยคนอื่นๆในวงการกีฬาหรือองค์กรนี้ ผมไม่ได้มีปูมหลังกับมวยไทย มันก็ค่อนข้างผิดปกติเล็กน้อยอ่ะนะ แต่เมื่อผ่านไปหลายปี ผมก็ได้เรียนรู้มัน สุดท้ายจึงได้ตระหนักว่าก็ดีไม่น้อยที่ได้แตกต่างจากคนอื่น" กฤษดากล่าว
กฤษดามีโอกาสพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาดีพอใน ONE Championship ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ต่อหน้ากองเชียร์เพื่อนร่วมชาติ ด้วยการพบกับคู่แข่งหนุ่มจากฟิลิปปินส์ Robin "The Ilonggo" Catalan โดยทั้งคู่มีโปรแกรมพบกันในศึก ONE: IRON WILL ซึ่งจะมีขึ้นที่อิมแพ็ค อารีน่า ต่อหน้าผู้ชม 12,000 ที่นั่ง
ด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 3 ในอาชีพนักมาร์เชียล อาร์ท รุ่นสตรอว์เวต การพบกับ Catalan ไฟต์นี้ กฤษดาต้องซ้อมหนักมากขึ้น หลังเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาเจ้าตัวชนะทั้ง 2 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน
หลังจากที่เขาพ่ายต่ออดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก Joshua Pacio เมื่อเดือนสิงหาคม 2016 กฤษดาได้กู้ชื่อตัวเองเมื่อเอาชนะ Adrian Matheis จอมพลังจากอินโดนีเซียด้วยการชนะซับมิสชั่นด้วยท่า Rear-naked choke เมื่อราวหนึ่งปีที่ผ่านมา
ก่อนที่อีกเก้าเดือนต่อจากนั้น กฤษดาจะโชว์ฟอร์มเฉียบอีกครั้งด้วยการชนะ TKO เหนือ Rabin Catalan พี่ชายของ Robin ตั้งแต่ยกแรก
แม้ว่ากฤษดาจะระเบิดผลงานสุดยอดสองไฟต์ติดกันใน ONE Championship แต่เขาก็ไม่ได้หลงระเริง แถมยังหวังทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในทุกๆไฟต์ ซึ่งนั่นเป็นบทเรียนที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นในฐานะนักมาร์เชียล อาร์ท
"ผมเป็นคนที่คิดบวกมากๆ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ผมเอามันมาเรียนรู้เพื่อพัฒนาได้หมด ผมจะทบทวนหลังการแข่งขันทุกไฟต์ด้วยการจดบันทึกทุกสิ่ง นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้รับจากมัน และนั่นทำให้ผมพัฒนาขึ้นทุกวัน ผมหวังว่าปี 2018 นี้จะเป็นปีที่ผมประสบความสำเร็จ" กฤษดาร่ายยาว
ภายใต้การดูแลของโค้ช Tommy Hayden และ Ponlawat Maki ตลอดจนสตาฟฟ์ Team Hunter ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย กฤษดาอยู่ในช่วงเพิ่มพูนอาวุธไม้ตายของตัวเองก่อนเผชิญหน้ากับ Catalan
"ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ผู้ชมจะได้เห็นการดวลระหว่างสองนักกีฬาที่แตกต่าง แต่ล้วนกระหายชัยชนะทั้งคู่ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้แสดงให้ทุกคนเห็นกฤษดาเวอร์ชั่นอัพเกรด ทีมงานของผมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ผมไปถึงฝั่งฝันในเส้นทางอาชีพมาร์เชียล อาร์ท" เขากล่าวเสริม
ด้วยเป้าหมายที่อยากให้ตนเองเป็นนักกีฬาที่มีความหลากหลายมากขึ้นในสังเวียนกรง กฤษดาเผยว่าเขาและเหล่าทีมงานให้ความสนใจกับการยืนประจัญบานมากขึ้น "ผมต้องการเป็นนักมาร์เชียล อาร์ท ที่สมบูรณ์แบบ ผมเคยฝึกตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติมเต็มความฝันในชีวิต มันต้องมีการเสียสละและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ ผมจะใช้วิชามวยไทยและทักษะมวยปล้ำของตัวเองก้าวไปอีกระดับให้ได้" กฤษดากล่าว
กฤษดาพอใจอย่างมากกับการฝึกซ้อมของตัวเองก่อนกลับขึ้นสังเวียน ONE Championship อีกครั้ง และคาดหวังชัยชนะเหนือ Catalan ในศึก ONE: IRON WILL ด้าน Catalan ก็หวังกู้ชื่อในไฟต์นี้เช่นกัน หลังล่าสุดเจ้าตัวแพ้ให้กับ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
"เขาคือนักรบที่กระหายชัยชนะ ผมรู้เช่นกันว่าเขาก็ต้องการก้าวไปสู่ฝันของตัวเองในวงการนี้ แต่ในวันที่ 24 มีนาคม ผมจะเดินออกจากสังเวียนในฐานะผู้ชนะ นี่คือสงคราม และผมหวังว่าจะชนะในไฟต์นี้ต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยอีกครั้ง" กฤษดากล่าว
กฤษดาเชื่อว่าชัยชนะเหนือ Catalan จะยกระดับเขาขึ้นไปอีกขั้นในรุ่นสตรอว์เวตของ ONE Championship
"ตั้งแต่เด็กแล้ว ผมฝันถึงการได้เป็นแชมป์โลก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้ชื่อว่า "Dream Man" สักวันผมอาจได้เป็นแชมป์โลกจริงๆก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ ผมโฟกัสที่คู่แข่งล่าสุดเท่านั้น ชัยชนะครั้งนี้แหละจะเป็นบันไดให้ผมได้เขยิบเข้าใกล้ความฝันมากขึ้น" กฤษดาทิ้งท้าย