อยู่คอนโด เลี้ยงสัตว์ยังไงดี ไม่ให้มีดราม่า!

จันทร์ ๒๖ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๕๙
"สัตว์เลี้ยง" เป็นอีกหนึ่งความน่ารัก ที่หลายๆ บ้านแทบจะขาดกันไม่ได้เลย จริงไหมคะ? ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว ปลา หรือสัตว์เล็กๆ อย่างหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งถ้าใครอาศัยอยู่ในบ้านที่มีพื้นที่กว้างมากพอ จะเลี้ยงสัตว์อะไร ก็สบายๆ แน่นอน เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนใคร แถมมีพื้นที่ให้เจ้าตัวป่วนทั้งหลายวิ่งเล่นด้วย

แต่สำหรับใครที่อยู่คอนโด อพาทเม้นท์ หรือหอพักที่มีพื้นที่จำกัด แต่อยากเลี้ยงสัตว์น่ารักๆ ไว้เป็นเพื่อแก้เหงาแล้วล่ะก็ วันนี้ เรามีคำแนะนำในการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแบบที่ไม่ต้องกลัวดราม่ามาฝากกันค่ะ

ชนิดของสัตว์ที่เลี้ยงได้

สำหรับพื้นที่ห้องในคอนโดที่ค่อนข้างจำกัด การเลี้ยงสัตว์ที่จะทำให้เราเกิดปัญหาน้อยที่สุด ควรเป็นเจ้าตัวเล็กที่ไม่ส่งเสียงดังและมีขนาดไม่ใหญ่ เช่น…

ปลา แนะนำเลี้ยงปลาขนาดเล็ก และตกแต่งด้วยไม้น้ำ เช่น ปลานีออน ปลาคาดินัล ซึ่งมักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง เวลาที่เราเหนื่อยล่าลองพักสายตาแล้วมองไปที่ตู้ปลาจะรู้สึกช่วยผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว แถมยังไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถใช้ตู้ปลาขนาดไม่ใหญ่มากได้ และที่สำคัญในปัจจุบันตู้ปลามีระบบกรองน้ำ เพื่อใช้บำบัดของเสียในตู้ปลา ทั้งอาหารที่เหลือในตู้ ขี้ปลา เมื่อมีระบบนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกรองน้ำบ่อยๆ

นก อย่าง นกแก้ว ที่เราสามารถเลี้ยงในกรงได้เลย รับรองว่าเสียงไม่ดังจนก่อให้เกิดความรำคาญกับห้องข้างๆ อย่างแน่นอน

กระต่าย เจ้าขนปุยสุดน่ารัก ที่แน่นอนว่า เลี้ยงไม่ยาก แถมไม่ใช้พื้นที่เยอะด้วย เช่น พันธุ์ เนเธอร์แลนด์ ดวอฟ (Netherland Dwarf) ลักษะเด่น คือ ลำตัวสั้น กะทัดรัด ขนนุ่ม-แน่น หรือจะเป็นพันธุ์ Czech Frosty กระต่ายหน้ากลม กระดูกหนา ตัวตันสุดน่ารักไปอีกแบบ

กระรอก เจ้าตัวเล็กที่ราคาไม่แรง แถมยังน่ารักสุดๆ สำหรับพันธุ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงกันก็คือ กระรอกสวน เช่น กระรอกสวนท้องขาว กระรอกสวนหลังดำ และกระรอกสวนท้องแดง เพราะจะมีหางฟูสวยงาม หาง่าย ราคาแค่ประมาณ 200-600 บาทเท่านั้น ยิ่งถ้ารับมาเลี้ยงให้เชื่องตั้งแต่อายุก่อน 4 เดือน จะดูแลง่าย และเชื่อฟังเรามากๆ

หนู ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง ทั้งหนูชินชิล่า (Chinchilla) หนูแฮมสเตอร์ หนูเดกู (Degu) เพราะหนูไม่ได้ส่งเสียงสร้างความลำคาญ แต่ผู้เลี้ยง ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบะทราย หรือแม้แต่กรงที่อยู่ของเจ้าหนู เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวน และต้องมีของเล่นให้เค้าได้คลายเครียดด้วย

แพรี่ด็อกซ์ เป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกัน ตัวเล็กพอๆ กับกระต่าย แสนรู้ มีความขี้อ้อน หลายคนจึงตกหลุมรักอย่างง่ายดาย

แล้วเราจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?

อันดับแรก ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ชนิดไหน อย่าลืมศึกษานิสัย พฤติกรรม อาหาร หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้กันก่อนนะคะ เพื่อที่ตัวเราเองจะได้ประเมินถูกว่า เหมาะที่จะเลี้ยงพวกเขาไหม และมีอะไรที่เราต้องเตรียมพร้อมหรือต้องปรับตัวบ้าง เช่น

ถ้าเลี้ยงปลา เราก็จำเป็นต้องมีตู้ปลา มีอาหาร ออกซิเจน อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ รวมถึงต้องคิดเรื่องการเปลี่ยนน้ำให้ปลาด้วย

นก อย่างนกแก้วหรือนกสวยงาม ที่ต้องมีกรง มีอาหาร รวมถึงมีของเล่นเล็กๆ อื่นๆ ให้นกได้เล่นหรือเกาะด้วย

กระต่าย อันดับแรกต้องเตรียมกรง ขวดน้ำ ที่แขวนข้างกรง ถาดถ้วยเซรามิกใส่อาหารเม็ดกับหญ้า ซึ่งแนะนำว่าการเลี้ยงควรให้หญ้าสดและหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก เสริมผักและผลไม้เล็กน้อยส่งผลต่อสุขภาพและการขับถ่าย และอย่าลืมห้องน้ำกระต่ายด้วยนะคะ

กระรอก ผู้เลี้ยงต้องเตรียมที่อยู่สำหรับกระรอก(กรง) ภายในอาจตกแต่งเป็นแบบโพรง เพื่อให้กระรอกที่อาศัยรู้สึกปลอดภัย ในกรงกระรอกควรมีภาชนะสำหรับใส่น้ำไว้ด้วย ส่วนอาหารกระรอกกินได้หลายชนิดโดยเฉพาะผักผลไม้ และธัญพืช นอกจากนี้ ควรเตรียมกระเป๋า และโซ่ สำหรับพาเจ้ากระรอกน้อยไปเที่ยวนอกบ้านด้วย

หนู ควรเตรียมความพร้อมด้านที่อยู่ อาหาร ของเล่นวงล้อปั่น น้ำดื่ม ห้องน้ำ เราควรศึกษาพฤติกรรมของเจ้าหนูให้ละเอียด ทำความคุ้นเคยกับมันก่อนที่จะเล่นกับเขา

แพรี่ด็อกซ์ เบื้องต้นต้องมีกรง ที่ซี่กรงไม่ห่างเกินไปนักเพราะอาจหลุดได้ และไม่สูงมากเพราะอาจตกลงมาบาดเจ็บได้ และไม่ควรชุบสีเพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ส่วนอาหารการกินที่ต้องกินเป็นประจำทุกวันคือ หญ้า และอาหารเม็ดและต้องมีขวดน้ำใส่น้ำสะอาดติดกรงไว้ตลอด เปลี่ยนหญ้าหรือเติมใหม่ทุกวัน ควรทำความสะอาดถาดรองกรงอย่างน้อยอาทิตย์ละ2ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมเชื้อโรคและกลิ่น

สัตว์แต่ละประเภทก็ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เพราะถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็ถือเป็นชีวิตหนึ่งเหมือนกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่หากคิดจะเลี้ยง ก็ควรต้องจัดหาข้าวของ สำหรับใช้ในการดูแลเจ้าตัวเล็กๆ พวกนี้เช่นกัน

ดังนั้น สำหรับใครที่วางแผนไว้แล้วว่าจะ หาเจ้าตัวไหนมาอยู่ด้วย หรือตอนนี้มีเลี้ยงเจ้าตัวเล็กคู่ใจกันอยู่แล้ว และกำลังมองหาข้าวของที่จำเป็นสำหรับพวกเขาในราคาประหยัดกันอยู่ล่ะก็ ต้องขอกระซิบดังๆ เลยว่า ห้ามพลาดงาน Pet Expo Thailand 2018 นี้เลยนะคะ

เพราะในงานมีร้านค้าที่ขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทต่างๆ โดยเฉพาะ มากถึงกว่า 250 ร้าน ในราคาพิเศษสุดๆ ที่หาได้จากในงานนี้เท่านั้น! เรียกได้ว่า ไม่ว่าคุณกำลังมองหาอะไรอยู่ ที่นี่มีครบ จบ ในที่เดียวแน่นอน แถมยังมีบูทจากโรงพยาบาลสัตว์มาเปิดให้คำปรึกษา ตรวจโรคให้น้องๆ และฉีดวัคซีนกันด้วย

สำหรับงาน Pet Expo Thailand 2018 นี้ จัดขึ้นแค่ 4 วันเท่านั้นน้า ระหว่างวันที่ 31 พ.ค - 3 มิ.ย 2561 ตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C ชั้น 1-2 , โซนพลาซ่า และโซนเอเทรียม สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-203-4216 หรือแวะเข้ามาหาเราที่เว็บ www.petexpothailand.net หรือทาง FaceBook : PetExpoClub ได้เลยจ้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest