ดังนั้น สิ่งที่มาเน้นย้ำ คือ การลงไปขับเคลื่อนตามแผนงานโครงการในพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ทุกขั้นตอนให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็น 1. การแจกพันธุ์สัตว์หรือการนำชาวบ้านมาอบรมวิธีการเลี้ยงและวิธีการทำการปศุสัตว์ ให้ประสานงานกับนายอำเภอ จากนั้นคัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมตามมติของที่ประชุมประชาคมของตำบลหมู่บ้านนั้นๆ 2. ให้นำโครงการที่ได้รับในครั้งนี้แจ้งในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดด้วย 3. โครงการบางส่วนเป็นการนำชาวบ้านมาอบรมแล้วก็จ่ายค่าอบรมให้วันละ 300 บาทนั้น ถ้าเป็นค่าอบรมเกิน 500 บาท ให้ผ่านธนาคาร ธกส.หรือออมสินเท่านั้น แต่ถ้าต่ำกว่า 500 บาท สามารถจ่ายเป็นเงินสดได้โดยให้มีชาวบ้านด้วยกันมาเป็นพยานในการเซ็นรับเงิน 4. บางโครงการ เช่น เวลาไปซื้อพันธุ์เป็ด ไก่ โค และแพะ มาแจก ต้องมีกรรมการตรวจรับพัสดุหรือครุภัณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพัสดุ และให้เพิ่มเติมกรรมการตรวจรับต้องเป็นข้าราชการอย่างน้อยจำนวน 3 คน และเพิ่มชาวบ้านอีกจำนวน 2 คน 5. โครงการทุกโครงการในงบกลางปี 2561 ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ให้ ปลัดกระทรวงเกษตรฯทำหนังสือเรียนไปถึงเลขาธิการ ปปท. ปปช. และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่งรายละเอียดโครงการทั้ง 24,000 ล้านบาทให้หน่วยตรวจสอบอิสระทราบ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกับ กษ. มากำกับดูแลตั้งแต่เริ่มดำเนินการ เพื่อหากเกิดปัญหาหรือมีร่องรอยการทุจริตจะได้ตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ และในส่วน กษ. จะมอบหมายให้ รมช.กษ.ทั้ง 2 ท่าน ติดตามภาพรวม โดยมีรองปลัดฯ ทั้ง 4 ท่านเป็นเลขานุการคณะติดตามงานด้วย
- มี.ค. ๒๕๖๗ กระทรวงเกษตรฯ เร่งเดินหน้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ประสบปัญหาโรคไวรัสใบด่าง
- มี.ค. ๒๕๖๗ ส่องรายได้เงินสดเกษตร ปี 61 ผลงานรัฐ ดันรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น ผลผลิตเกษตรได้คุณภาพ
- มี.ค. ๒๕๖๗ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน โชว์นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์พัฒนางานชลประทานกว่า 100 ชิ้นงาน เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนากรมฯ 117 ปี มุ่งมั่นสานต่อนวัตกรรมเพื่อการชลประทานอย่างยั่งยืน