ยอดลิ้นจี่ปีนี้ รวม 4 หมื่น 5 พันตัน มาแน่ พฤษภาคม ผลผลิตคึกคัก พร้อมเริ่มออกตลาดตั้งปลายเมษายน

พุธ ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๑๘
สศก. เผย ปี 61 ผลผลิตลิ้นจี่ทั้งประเทศ 45,446 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วเพียงร้อยละ 1 ในขณะที่ผลผลิตต่อไร่ 450 กก. เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8 เนื่องจากสภาพอากาศอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล โดยผลผลิตสำคัญ 4 จังหวัด ภาคเหนือจะออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนและออกมากในเดือนพฤษภาคมนี้ คิดเป็นร้อยละ 62 ของผลผลิตทั้งหมด

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตลิ้นจี่ ปี 2561 (ข้อมูลคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ณ 26 กุมภาพันธ์ 2561) พบว่า เนื้อที่ให้ผล รวมทั้งประเทศ 100,927 ไร่ ลดลง จากปี 2560 ร้อยละ 9 เนื่องจากลิ้นจี่ให้ผลผลิตน้อยติดต่อกันหลายปี ในแหล่งผลิตที่สำคัญทางภาคเหนือ และภาคกลาง เกษตรกรจึงปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้ผลอื่น เช่น ลำไย มะม่วง กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า ส้มโอ และมะพร้าวน้ำหอม เป็นต้น ผลผลิต รวมทั้งประเทศ 45,446 ตัน ลดลงร้อยละ 1 ตามการลดลงของเนื้อที่ให้ผล ส่วนผลผลิตต่อไร่ 450 กก. เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8 จากสภาพอากาศอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล โดยมีอากาศหนาวเย็น และหนาวนานกว่าปีที่ผ่านมา เหมาะกับการออกดอกของลิ้นจี่

จากการติดตามสถานการณ์แหล่งผลิตลิ้นจี่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย และน่าน คาดว่า ปี 2561 ทั้ง 4 จังหวัด มีเนื้อที่ให้ผล 88,413 ไร่ ลดลงจากปี 2560 ร้อยละ 10 ผลผลิต 4 จังหวัด รวม 39,705 ตัน ลดลงร้อยละ 6 โดยคาดว่า เชียงใหม่ จะมีผลผลิต 24,360 ตัน รองลงมา คือ พะเยา 6,792 ตัน เชียงราย 5,048 ตัน และ น่าน 3,505 ตัน

สำหรับผลผลิตต่อไร่ 4 จังหวัด เฉลี่ย 449 กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย อากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา ยกเว้น จังหวัดเชียงรายผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากมีฝนตกทำให้ต้นลิ้นจี่แตกใบอ่อนแทนการออกดอก โดยขณะนี้ ลิ้นจี่อยู่ในช่วงเริ่มติดผล มีผลขนาดหัวไม้ขีดไฟ และคาดว่าทั้ง 4 จังหวัด ผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน และออกตลาดมากในเดือนพฤษภาคม 2561 รวม 24,554 ตัน หรือร้อยละ 62 ของผลผลิตทั้งหมด

ด้านนายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่จะขายผลผลิตในให้แก่ผู้รับซื้อที่มาตั้งจุดรับซื้อ โดยแบ่งผู้รับซื้อออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้รับซื้อเพื่อการส่งออกไปประเทศจีน 2) ผู้รับซื้อที่เป็นโมเดิร์นเทรด และ 3) ผู้รับซื้อที่เป็นพ่อค้าทั่วไป โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดในลักษณะกระจุกตัวเพียงเดือนเดียว คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาราคาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และผู้ประกอบการ วางจำหน่ายสินค้าในหลายแห่ง เช่น ร้านธงฟ้าประชารัฐ และเครือข่ายตลาดประชารับทุกแห่งในพื้นที่ เป็นต้น จึงอยากขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบริโภคลิ้นจี่ หรือเลือกซื้อเป็นของฝากเพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรในช่วงผลผลิตออกตลาดร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4