กลุ่มงานกิจการนักศึกษา ม.ศรีปทุม จับมือ สภากาชาดไทย จัดโครงการ ทำดีถวายพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ด้วยการบริจาคโลหิต (1คนให้ 3 คนรับ)

พฤหัส ๒๙ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๒
คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม และประชาชนทั่วไป ร่วมกันบริจาคโลหิตในโครงการ"ทำดีถวายพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ด้วยการบริจาคโลหิต" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

กลุ่มงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต ภายใต้โครงการ " ทำดีถวายพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ (1คนให้ 3คนรับ) ด้วยการบริจาคโลหิต" ร่วมกับสภากาชาดไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ ระหว่างวันที่ 27-28 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ Exhibition Zone C ชั้น 1 อาคาร 11 มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน)

โดยโครงการนี้ได้รับความสนใจจากนักศึกษา บุคลากร มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก โดยกรุ๊ปเลือดที่หาได้น้อยที่สุดคือกรุ๊ปAB Negative ซึ่งยังไม่พอต่อความต้องการ เนื่องจากมีผู้ป่วยที่ต้องการเลือดกรุ๊ปนี้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งทางสภากาชาดไทย ได้กล่าวว่า เลือดที่ได้มาต้องเอามาแยก ตอนนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัยทางเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อให้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ด้วยความที่เป็นทรัพยากรที่หายาก เลือดของทุกคนที่บริจาคต้องภูมิใจในการบริจาคโลหิต จะสังเกตว่าเราจะมีถุงพ่วง เป็นระบบปิด ไม่สามารถที่จะไปถ่ายเป็นแก้วได้เพราะมันอาจจะติดเชื้อ เลือดเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อที่ดีมากเราทำความสะอาดผิว เจาะเข็มเข้าเส้นเลือดลงมาในถุงนำไปในห้องปั้นแยก หลังจากได้เลือดจาคผู้บริจาคแล้วทางสภากาชาดจะนำเลือดไปแยกตามการใช้งานให้เหมาะสมด้วยเครื่องมือเฉพาะเพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยจะแยกเป็นเม็ดเลือดแดงเพื่อใช้กับผู้ป่วยจากอุบัติเหตุและการผ่าตัด ส่วนเม็ดเลือดขาวจะใช้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อและผู้ป่วยที่มีเม็ดเลือดขาวน้อย เกล็ดเลือดจะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการเลือดไหลไม่หยุด และพลาสม่าจะใช้กับผู้ป่วยที่เสียเลือดมากรวมถึงผู้ป่วยโรคฮีโมฟิเลียด้วย

โดยการบริจาคเลือดทุกครั้งจะต้องกรอกข้อมูลของผู้บริจาคเลือดไว้ ผู้บริจาคพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเบื้องต้นแพทย์จะวัดความดัน วัดความเข้มข้นของเลือด ผู้ที่บริจาคเลือดได้ต้องพักผ่อนอย่างน้อย6ชั่วโมงต้องดื่มน้ำก่อนบริจาคเลือด3-4แก้ว รับประทานอาหารให้เรียบร้อย ต้องงดของมันและของหวาน นอกจากนี้ผู้บริจาคเลือดต้องมีน้ำหนัก45กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งมาตรฐานการบริจาคเลือดนั้นผู้ที่มีน้ำหนักตัว45-50กิโลกรัมจะสามารถบริจาคเลือดได้ 350ซีซี ผู้ที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 50กิโลกรัมบริจาคเลือดได้450ซีซี ใช้เวลาในการบริจาคเลือดประมาณ10-20นาที หลังบริจาคเลือดเสร็จเรียบร้อย ผู้บริจาคเลือดจะได้รับบัตรนัดและบัตรประจำตัวผู้บริจาคเลือด เพื่อใช้ในการบริจาคเลือดครั้งต่อไปทั้งยังได้เข็มที่ระลึกจากสภากาดชาดอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4