1. เลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบ INVERTER ที่มีฉลากเบอร์ 5
ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกชนิดจะมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดนั้น จะมีประสิทธิภาพเท่ากัน สำหรับเครื่องปรับอากาศควรจะเลือกที่มีระบบ INVERTER เพราะประหยัดไฟได้มากกว่า อีกทั้งยังรักษาอุณหภูมิได้ค่อนข้างคงที่ และยังลดโอกาสการเกิดไฟกระชากอีกด้วย
2. หากเป็นเครื่องปรับอากาศเก่าที่มีอยู่แล้ว ปิดก่อนออกจากห้อง 1 ชั่วโมง เย็นเท่าเดิม แต่ประหยัดกว่า
ส่วนใหญ่เรามักจะปิดเครื่องปรับอากาศก่อนที่จะออกจากห้อง หรือพื้นที่ใช้งาน แต่ทราบหรือไม่ว่าหากเราปิดเครื่องปรับอากาศก่อนที่จะออกจากห้องซัก 1 ชั่วโมง ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น แต่อุณหภูมิในห้องก็ยังคงเย็นสบายเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันเครื่องปรับอากาศก็มีฟังก์ชั่นช่วยในการเปิด – ปิดเครื่องปรับอากาศโดยตั้งเวลาล่วงหน้า ก็จะยิ่งช่วยให้สะดวกมากขึ้น
3. หมั่นตรวจสอบช่องว่าง ป้องกันความเย็นรั่วไหล
หลายๆครั้งที่เราเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ แล้วอาจจะรู้สึกว่าไม่เย็นสบายเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะว่าภายในห้องมีจุดที่ทำให้ไอเย็นรั่วไหลไปได้ เช่นช่องใต้ประตูที่กว้างเกินไป หรือการเปิด-ปิดประตูห้องบ่อยครั้ง ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินความจำเป็น
4.ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศแอร์อยู่เสมอ
แผ่นกรองอากาศเครื่องปรับอากาศและการทำความสะอาด สำหรับหน้าร้อนนี้ อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นมีผลทำให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และสำหรับอาคารบ้านเรือนที่มีการใช้งานเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ การล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องทำงานได้ดียิ่งขึ้น
5. ปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศา ประหยัดพลังงานได้มากกว่า
ภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนก็ยิ่งอุณหภูมิสูงยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น จากที่ 25 องศา เป็น 26 องศา ก็จะช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นสบายกำลังดี และช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
สามารถติดตามกิจกรรมดีๆ และสาระที่น่าสนใจในการประหยัดพลังงานกับโครงการ "รวมพลังหาร 2" ได้ทุกช่องทางทั้ง Website: www.eppohan2.com, Facebook Page: www.facebook.com/eppohan2, Instagram: eppohan2, และ YouTube: eppohan2