กรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมมืออำนวยความสะดวกทางการค้า เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการส่งออกสินค้าของประเทศ

อังคาร ๐๓ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๕:๑๗
วันนี้ (วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561) เวลา 10.00 น. นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และเรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีลงนามร่วมในสัญญาประกันทัณฑ์บน พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต (Specific Local Vessel) และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ระหว่างกรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากภาคเอกชน สมาคม และสมาพันธ์ต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในงานดังกล่าว ณ ห้องภาสกรวงศ์ ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย ประสานความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออกสินค้า และลดต้นทุนการส่งออกสินค้าของประเทศ โดยกรมศุลกากรออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 37/2561 เรื่อง พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต (Specific Local Vessel) และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง 20G ท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok Port Coastal Terminal Optimizing Your Business) เพื่อสนับสนุนการขนส่งทางน้ำภายในประเทศ ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ ลดปริมาณการจราจรทางบก และเพิ่มขีดความสามารถด้านการส่งออกของประเทศ

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต (Specific Local Vessel) และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการพิธีการศุลกากรส่งออก จากเดิมที่จะทำการตรวจปล่อย ณ ท่าท้ายสุดที่ระบุไว้ว่าจะส่งของออกนอกราชอาณาจักร เป็นการตรวจปล่อยให้เสร็จสิ้น ณ ท่าต้นทางที่มีพนักงานศุลกากรปฏิบัติหน้าที่ประจำและมีความพร้อมในการตรวจสอบสินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ โดยปฏิบัติพิธีการศุลกากรขาออก ตรวจปล่อยสินค้าให้เสร็จสิ้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ บรรทุกลงเรือเฉพาะเขตและรับบรรทุก ณ ท่าท้ายสุดที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งการขนส่งสินค้าด้วยเรือเฉพาะเขตมีความปลอดภัยสูง ขนส่งได้ปริมาณมาก ขนส่งสินค้าได้ตามเวลาที่กำหนด ลดต้นทุนการขนส่งแทนการใช้รถบรรทุก ลดปัญหาจราจรทางบก สำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากรส่งออกในรูปแบบนี้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในระบบโลจิสติกส์ได้ไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาทต่อปี และยังเป็นการลดปริมาณการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ไม่น้อยกว่า7.4 ล้านลิตรต่อปี ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่า 26.7 ล้านตันคาร์บอนต่อปี อีกทั้งสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้บริการ หากท่าเอกชนในกำกับดูแลภายใต้สำนักงานศุลกากรกรุงเทพเปิดดำเนินการในลักษณะเดียวกัน คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจจะเพิ่มสูงขึ้น

ผลการดำเนินงานตามกระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึง (Pre-Arrival Processing)

กรมศุลกากรได้ออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 5/2561 เรื่อง กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึง (Pre-Arrival Processing) ซึ่งเป็นกระบวนการทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้นำของเข้าในการนำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ โดยผู้นำของเข้าสามารถยื่นใบขนสินค้าขาเข้าล่วงหน้าและยื่นชำระค่าภาษีอากร (ถ้ามี) ล่วงหน้าได้ ก่อนที่เรือ/อากาศยาน จะเข้ามาถึง ณ ท่า/สนามบินที่เป็นด่านศุลกากร

ผู้นำของเข้าจะสามารถยื่นใบขนสินค้าขาเข้าล่วงหน้าได้ต่อเมื่อนายเรือ ผู้ควบคุมอากาศยาน หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากนายเรือ/ผู้ควบคุมอากาศยาน หรือตัวแทนเรือ/อากาศยาน ยื่นบัญชีสินค้าสำหรับเรือ/อากาศยาน ให้กับกรมศุลกากรแล้ว และผู้นำของเข้าต้องยื่นใบขนสินค้าขาเข้าในเดือนเดียวกันกับเดือนที่สินค้าจะมาถึง โดยหลังจากเริ่มใช้ประกาศกรมฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2561 มีจำนวนใบขนสินค้าขาเข้าที่ส่งเข้าระบบคอมพิวเตอร์กรมศุลกากรแบบล่วงหน้า ดังนี้

จำนวนใบขนสินค้าขาเข้า/ฉบับ คิดเป็นร้อยละ

ใบขนสินค้าขาเข้าทั้งหมด 518,413 -

ใบขนสินค้าที่ส่งมาก่อนสินค้ามาถึง 51,030 9.84

ใบขนสินค้าที่ชำระภาษีก่อนสินค้ามาถึง 16,430 3.17

กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึงนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้นำของเข้าสามารถปฏิบัติพิธีการศุลกากรในการนำเข้าสินค้าที่มาต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลา ลดค่าใช้จ่าย ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสอดคล้องกับบทบัญญัติตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement) ภายใต้องค์การการค้าโลก

กรมศุลกากรยังคงมุ่งมั่นให้บริการศุลกากรเป็นเลิศ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยและเชื่อมโยงการค้าโลก เพื่อยกระดับการให้บริการที่ทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงการค้าโลก ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4